เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความและประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงยุติธรรม กรณีนายอุดม และนางแดง ศิริสอน ที่คนรู้จักในนาม”สองตายายเก็บเห็ด” ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันบุกรุกแผ้วถางป่า จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2553 ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษา และคดีถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาขอพักโทษ และพระราชทานอภัยโทษ โดยมีนายอินทราวุธิ สมมาตร หัวหน้าศูนย์บริการร่วม เป็นผู้รับเรื่อง
นายสงกานต์ กล่าวว่า เดิมทีคิดจะดำเนินการขอรื้อฟื้นคดีอาญาใหม่ แต่เห็นว่าการรื้อฟื้นคดีนั้นจะใช้ระยะเวลานานงต้องมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ และคดีต้องถึงที่สุดแล้วตามพ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ เช่น เจ้าหน้าที่ให้การเท็จในชั้นสอบสวน ก็จะต้องมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุดก่อน เมื่อดำเนินคดีถึงที่สุดแล้วก็ต้องนำมาร้องต่อศาลชั้นต้นจึงได้ตรวจดูหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ก็เห็นว่านายอุดมอยู่ในเรือนจำมาแล้ว 595 วัน ส่วนนางแดง 622 วัน ซึ่งก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่โฆษกศาลได้ให้สัมภาษณ์
นายสงกานต์ กล่าวต่อว่า ในความหมายการจำคุกของนายอุดมและนางแดงก็ได้เขียนไว้ชัดเจนว่าให้นำวันที่นายอุดมและนางแดงถูกจำคุกยู่ในเรือนจำก่อนหน้านี้มาหักลบกับวันต้องโทษที่ศาลฎีกาพิพากษาตัดสินด้วย อีกทั้ง ก่อนหน้านี้นายอุดมและนางแดงก็ได้รับการเลื่อนชั้นนักโทษเป็นนักโทษชั้นดีแล้ว ดังนั้น ในวันนี้จึงเดินทางมายื่นเรื่องต่อกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้มีการพิจารณาพักการลงโทษ และพระราชทานอภัยโทษ เนื่องจากกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เป็นขั้นตอนที่สามารถทำได้ และรวดเร็วกว่าการทำเรื่องของรื้อฟื้นคดี
ด้าน นายอินทราวุธ กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว ก็ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ที่จะเป็นผู้พิจารณาตามระเบียบ โดยศูนย์บริการร่วมจะส่งเรื่องที่นายสงกานต์มาร้องเรียนนวันนี้ไปให้กับกรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ หากดูตามระเบียบการพักการลงโทษก็คงต้องให้กรมราชทัณฑ์เป็นผู้ชี้แจงถึงเรื่องนี้
