จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) จับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ก่อนขยายผลจับกุมนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ให้การซัดทอดว่าหนึ่งในทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดนั้นนำไปไว้ที่นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของนางเอกสาว แพท ณปภา ตันตระกูล ก่อนที่ภายหลังนายเบนซ์จะถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินและสมคบการฟอกเงิน ต่อมาแพท ณปภา และมารดานายเบนซ์ เดินทางเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน บช.ปส. เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา หลังตำรวจพบเงินในบัญชีแพท ณปภา โอนมาจากเบนซ์ เรซซิ่ง และต้องสงสัยว่าเป็นเงินจากการกระทำความผิด กระทั่งล่าสุดพนักงานสอบสวนบช.ปส.ออกหมายเรียกแพท ณปภา เข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินในวันที่15พฤษภาคมนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่12พฤษภาคม รายงานข่าวจากบช.ปส.แจ้งว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน บช.ปส. อยู่ระหว่างแยกหมวดหมู่เอกสาร หลักฐานต่างๆที่มี เพื่อประกอบสำนวน ขณะนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด5คน ได้แก่ นายณัฐพล นาคคำ หรือบอย นายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ เรซซิ่ง คนใกล้ชิดนายณัฐพลอีก 2 คน และแพท ณปภา โดยการออกหมายเรียกให้แพท ณปภา มาพบในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ จะเป็นการเรียกพบในฐานะผู้ต้องหา โดยตำรวจระบุเวลา 09.00 น. หากไม่มาตามนัด จะต้องขอศาลออกหมายจับตามขั้นตอน ส่วนปมเหตุที่แพท ณปภา ถูกแจ้งข้อหาด้วยนั้น เป็นเพราะเงินในบัญชี 1.9ล้านบาท ที่นายเบนซ์ ซึ่งเป็นสามีโอนให้ ก่อนที่แพท ณปภา จะโอนคืนไป 4 แสนบาท ทำให้เหลือยอดเงิน1.5 ล้านบาท โดยภายหลังแพท ณปภา ได้ส่งมอบเงินดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)อายัดไว้แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อต้นเดือนพฤษาคมที่ผ่านมา เลขาธิการ ป.ป.ส. อนุมัติให้ตำรวจดำเนินการตามพ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด กับนายณัฐพล นายเบนซ์ และคนใกล้ชิดนายณัฐพลอีก 2 คน จนต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินโดยละเอียดอีกครั้ง นำไปสู่การแจ้งข้อหาแพท ณปภา ด้วย
