วันที่ 18 พฤษภาคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.สปพ.) พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สตร.บก.สปพ. พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ รอง ผกก.สตร.บก.สปพ. พ.ต.ท.กัมพล รัตนประทีป รอง ผกก.กก.2 ร่วมกันจับกุมนายอั๋น (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และนายกลิ้ง (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ข้อหาชักจูง ยุยงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย โดยผู้ต้องหาคนแรกถูกจับกุมได้ที่หน้า สน.บางชัน และคนที่สองจับกุมได้ที่ภายในชุมชนคลองระหัส ถนนเสรีไทย เขตคันนายาว กทม.
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ออกสืบสวนหาข่าวตัวบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นแกนนำชักจูงให้กลุ่มเด็กและเยาวชนเข้าทำการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ต่อมาสืบสวนทราบว่ามีผู้เปิดเฟซบุ๊กที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26(3) จำนวน 6 เฟซบุ๊ก ได้แก่ งานวุ่นวาย, ของดีรามคำแหง, กู สายแว้น, แว้น รามอินทรา สุวินทวงศ์, สจ.รามอินทรา และแว้นซิ่ง 2 กิโล รวมผู้ติดตามทั้งหมด 6 เฟซประมาณ 25,800 คน จึงขออำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวกลางขออนุมัติหมายจับ เจ้าของเฟซบุ๊กทั้งสองรับว่าเรียกกลุ่มแว้นมารวมตัวแข่งรถบนถนนรามอินทรา-เสรีไทย และมีนบุรี โดยเรียกมาได้ครั้งละ 100 คัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า จับกุมนายมนัส เกตุคล้าย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/10 หมู่ 1 แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กทม. ข้อหาเป็นหัวหน้าหรือสั่งการให้มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่ง อย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และเป็นผู้จัดสนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยก่อนจะจับกุมสืบสวนทราบว่านายมนัสมีพฤติกรรมเป็นแกนนำชักจูงให้กลุ่มเด็กและเยาวชนเข้าทำการแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ โดยเปิดเฟซบุ๊ก “โก้ ฮานามิ” มีผู้ติดตาม 1,000 คน สอบสวนนายมนัส รับสารภาพว่าตนควบคุมการแข่งบริเวณลาดกระบังและเคลื่อนตัวมาอ่อนนุช สามารถเรียกมารวมตัวกันได้ครั้งละ 100-200 คัน ส่วนจะเรียกนักแข่งรวมตัวแว้นเมื่อไหร่จะขึ้นอยู่จังหวะและสถานการณ์
ผบก.สปพ.กล่าวว่า จากข้อมูลศูนย์รวมข่าว รับแจ้งเหตุ 191 พบว่ามีการร้องเรียนรถแข่งลดลง 50% ซึ่งในวันนี้ที่จับกุมนายมนัส ทางพนักงานสอบสวนแจ้งดำเนินคดี ข้อหาเป็นหัวหน้าหรือสั่งการให้มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และเป็นผู้จัดสนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งต่อไปหากจับกุมหัวโจกที่นัดรวมตัวแข่งรถครั้งละ 100-200 คน จะต้องถูกแจ้งข้อหามาตรานี้ทุกราย
