เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีค้ากาม ในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน ว่า สำหรับนายชูชาติ พ่วงจีน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ รับสารภาพว่า อ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฐานจัดหาให้มีการค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า15ปีแต่ไม่เกิน18ปี และพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า18ปี ส่วนกรณีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)นั้น สั่งการไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค5(บช.ภ.5) ให้รับคดีไว้แล้ว โดยเป็นการกล่าวหาผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนคนปัจจุบัน เป็นคดีที่150ของสภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ส่วนอบต.บ้านใหม่ ชุดสืบสวนบก.สส.บช.ภ.5 รายงานว่า อบต.เป็นผู้กระทำความผิด จึงรับคดีไว้ในคดีที่152 ที่เหลือต้องอาศัยหลักกฎหมาย ลักษณะพยานในการหาผู้กระทำความผิดที่แน่ชัด แบ่งออกเป็น 3 อย่าง คือ พยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานบุคคล โดยพยานบุคคล แบ่งออกเป็น2ส่วน คือ ประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม กรณีนี้ผู้เสียหายเป็นพยานแวดล้อม ไม่ใช่ประจักษ์พยาน เนื่องจากประจักษ์พยานยืนยันว่า เป็นอบต.บ้านใหม่ ส่วนพยานเอกสาร เป็นพยานชั้นหนึ่ง ยืนยันว่าอบต.บ้านใหม่ เป็นผู้เข้าพัก และมีรายการเปิดเงินเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ จะมีการแจ้งความกลับหรือไม่ ยังไม่แน่ชัด เพราะผู้เสียหายคือพนักงานสอบสวน ส่วนตัวคงจะไม่แจ้งความ เพราะเมื่อนำพยานไปเข้าเครื่องจับเท็จแล้วมันไม่เท็จ จึงไม่รู้ว่าจะแจ้งไปทำไม ไม่เกิดประโยชน์อะไร ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง หากประสงค์จะแจ้งความกลับขอให้แจ้งมาที่ตนจะดำเนินการให้
รองผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่เคยพูดหรือตอบโต้ใดๆ และไม่เคยติดต่อมาที่ตน ขณะนี้ยืนยันได้ว่าหลักฐานทั้งหมดไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และตำรวจไม่เคยบอกว่าผู้ว่าฯมีความผิด เพียงแต่บอกว่ามีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ การชั่งน้ำหนักพยานดูแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ โดยขณะนี้สั่งการให้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5(ผบช.ภ.5) ให้เร่งรัดทำสำนวนสั่งไม่ฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเสนอพนักงานอัยการไปตามป.วิอาญา
