ถกร่วม”อัยการ-ตร.”ล่าตัว”บอส”ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ลั่นได้ตัวก่อนหมดอายุความ3เดือน(คลิป)

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 9 มิถุนายน ที่ห้องประชุม 303 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการอาคารเอ ถนนแจ้งวัฒณะ นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ แถลงภายหลังการประชุมติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กรณีขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 แล้วหลบหนีไม่มาตามนัดหมายของอัยการในการส่งฟ้องคดี ภายหลังคณะทำงานอัยการสำนักงานต่างประเทศและคณะทำงานกองการต่างประเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นำโดยพล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผบก.กองการต่างประเทศ ตร. ประชุมร่วมกันโดยใช้เวลากว่า1ชั่วโมง

โดยนายอำนาจ กล่าวว่า มีการตั้งคณะทำงานและเชิญทางตำรวจสำนักงานต่างประเทศมาพูดคุยเพื่อเตรียมความพร้อมตรวจสอบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่ใด และขั้นตอนการเตรียมเอกสารที่ทางอัยการต้องการเพื่อไม่ให้เสียเวลาหากมีการยื่นเอกสารจากทางตำรวจเข้ามา จากการพูดคุยเราได้ข้อยุติ และได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทางตำรวจ ส่วนที่มีการถามว่าปัจจุบันสำนักงานอัยการสูงสุดทราบตัวที่อยู่ของ นายวรยุทธ หรือมีการแจ้งมาหรือไม่นั้น เป็นส่วนหน้าที่ของ ตร. จะเป็นผู้แถลงต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบมาว่านอกจากการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้วยังมีช่องทางการตามตัวนายวรยุทธในการประสานขอความร่วมมือตำรวจสากลตามจับกุมอีก ในที่ประชุมมีการพูดคุยเรื่องนี้และทางตร.มีการประสานขอหมายจับไปทางตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลหรือไม่ นายอำนาจ กล่าวว่า ตามขั้นตอนสามารถทำเรื่องประสานได้ แต่การจะทำได้ผลหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับกฎหมายภายในของประเทศที่ผู้ต้องหานั้นหลบหนีอยู่ ถ้าประเทศนั้นมีความร่วมมือและสามารถทำได้ และพิจารณาทำก็จะสามารถส่งกลับมาในประเทศที่ผู้ต้องหามีสัญชาติอยู่ ขั้นตอนนี้ถือเป็นกระบวนการยุติอีกส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่อัยการกำลังทำอยู่ ส่วนการพิจารณาว่าจะใช้วิธีดังกล่าวหรือไม่นั้นเป็นการพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับมิติในด้านความสัมพันธ์ และเป็นช่องทางที่จะส่งผู้ต้องหากลับโดยใช้การส่งผู้ต้องหากลับด้วยกฎหมายเฉพาะด้าน แต่เราคาดหวังเฉพาะในส่วนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องนโยบายของแต่ละประเทศจะต่างกัน ส่วนที่ว่ามีการใช้วิธีขออกหมายจับไปทางตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลแล้วหรือไม่นั้น ในที่ประชุมมีการพูดเรื่องนี้อยู่ แต่เราไม่อาจตอบในส่วนนี้ได้เป็นเรื่องของตร.ในการตอบคำถามในการแถลงข่าวครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า วันนี้การเตรียมความพร้อมทางด้านเอกสารติดขัดตรงไหนและตำรวจสามารถยื่นเอกสารได้ในตอนไหน นายอำนาจกล่าวว่า ในทางปฏิบัติกองการต่างประเทศของตำรวจและสำนักงานอัยการต่างประเทศมีการประสานโดยใกล้ชิดอยู่แล้ว คดีนี้เป็นคดีที่เหมือนคดีอื่นทั่วไปข้อเท็จจริงไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่เป็นคดีที่ประชาชนสนใจเราเลยต้องเตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้ติดขัด ว่าเอกสารที่เราต้องการจะสามารถส่งไปได้ทุกประเทศไม่ว่าประเทศนั้นจะมีสนธิสัญญาหรือไม่ ถ้ามีสนธิสัญญาเงื่อนไขจะง่าย ถ้าประเทศไม่มีสนธิสัญญาเราจะใช้การขอโดยเงื่อนไขการทูตต่างตอบแทน ตอนนี้จึงต้องขอข้อมูลที่จะใช้ประโยชน์ให้มีความสมบูรณ์ที่จะดำเนินการส่งอัยการสูงสุดว่าจะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่โดยเร็ว ส่วนเรื่องที่ทางตำรวจจะต้องส่งเอกสารให้อัยการในวันไหนนั้น เราไม่ได้กำหนด แต่เท่าที่คุยทางตร.ได้ทำเต็มความสามารถแล้ว

Advertisement

“เบื้องต้นจะมีการแปลเป็นภาอังกฤษที่สามารถใช้ได้ทั่วโลกตอนนี้ขอให้ตร.เตรียม แต่เราเตรียมเรื่องข้อกฎหมายในการดำเนินการไว้หมดแล้ว ขาดเพียงแค่แหล่งที่อยู่และคำขอ เราได้บอกไปว่าให้เตรียมไว้กี่ชุด” นายอำนาจกล่าว

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ในที่ประชุมมีการหารือกับตำรวจ ถึงรายละเอียดการประสานกับตำรวจสากลเพื่อขอออกหมายจับนายวรยุทธ อย่างเข้มข้น และยืนยันว่าหลักการทำงานและประสานงานอย่างใกล้ชิดในครั้งนี้สามารถที่จะได้ตัวในอายุความ ส่วนที่ถามว่าตำรวจแจ้งมาหรือไม่ในเรื่องที่พำนักของผู้ต้องหา ตรงนั้นเป็นเรื่องกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตอบรายละเอียดในส่วนนี้ได้

เมื่อถามว่า จะได้ตัวก่อน3เดือนที่จะขาดอายุความในข้อหาแรกหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า จะทำให้ได้ภายในอายุความ ทั้งสองหน่วยงานตระหนักในประเด็นข้อนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องนี้ว่าจะเสร็จในเงื่อนเวลาอย่างใด เมื่อถามว่ามีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ออกสื่อว่านายวรยุทธเดินทางไปที่ประเทศสิงค์โปร ทำไมเราถึงยังไม่ได้ตัว และผู้ต้องหาได้พาสปอร์ตใหม่แล้วหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า เป็นขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถลงรายละเอียดข้อมูล เพราะอาจกระทบต่อการทำงาน ส่วนเรื่องพาสปอร์ตยังไม่ปรากฏว่าได้มีเหตุการณ์ดังกล่าว หากมีเหตุการณ์เช่นนั้นเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะมีขั้นตอนปฎิบัติ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากการประชุม พล.ต.ต.อภิชาติ ผบก.กองการต่างประเทศ ตร.ได้เดินทางกลับทันทีโดยไม่ได้ร่วมในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีคณะทำงานทางฝ่ายตำรวจอยู่ร่วมรับฟังการแถลงข่าว สื่อมวลชนได้พยายามซักถามประเด็นเกี่ยวกับเรื่องว่ามีการออกหมายจับอินเตอร์โพลนอกจากเรื่องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปแล้วหรือไม่ ซึ่งได้รับการปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่ทราบข้อมูล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image