เปิดแผนชำระแค้น! อุ้มนักธุรกิจญี่ปุ่น ข่มขืนใจยุ่นรับเหมาร่วมแก๊ง ตร.คุมฝากขังพรุ่งนี้(คลิป)

จากกรณีนายเรโอ ชูรุโซเอะ อายุ 41 ปี พร้อมด้วยนายมาซาโตะ โคบาริ อายุ 49 ปี และนายคิโยโตะ มิยาดา อายุ 57 ปี ทั้งหมดเป็นชาวญี่ปุ่น ร่วมกันก่อเหตุลักพาตัวนายวาตานาเบ้ ซินามิ อายุ 56 ปี นักธุรกิจบริษัทเครื่องมือการแพทย์ ไปกักขังหน่วงเหนี่ยวภายในห้องพักเลขที่ 719 ชั้น 7 อพาร์ตเมนต์แกรนด์ไฮ เทค ทางเวอร์ ตั้งอยู่ภายในซอยเอกมัย 23 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะบุกเข้าให้การช่วยเหลือ ออกมาได้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 มิถุนายน ที่สน.ทองหล่อ รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนสอบสวนเมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา นายเรโอ ตกเป็นผู้ต้องหาชิงทรัพย์ของนายวาตานาเบ้ เหตุเกิดที่ญี่ปุ่น จนถูกไล่ออกจากงานประจำ เก็บความแค้นฝังใจมานาน ค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่านายวาตานาเบ้ พร้อมภรรยา ชาวญี่ปุ่น จะเดินทางมาทำธุรกิจที่ประเทศไทย จึงตัดสินใจชักชวนนายมาซาโตะ เพื่อนสนิทและเป็นสมาชิกแก๊งยากูซ่า ร่วมกันแก้แค้น โดยเดินทางมาประเทศไทย ดักรอตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน สืบเสาะแหล่งที่อยู่รวมทั้งบุคคลใกล้ชิดที่สามารถติดต่อได้จนกระทั่งทราบว่านายคิโยโตะ ประกอบอาชีพรับเหมาตกแต่งต่อเติมภายในซึ่งพักอาศัยที่ประเทศไทยมา 2-3 ปี ใกล้ชิดสนิทสนมกับนายวาตานาเบ้ เป็นอย่างดีและยังอยู่ระหว่างการตกแต่งต่อเติมคอนโดมิเนียมย่านเอกมัยให้กับผู้เสียหาย

รายงานการสืบสวนพบว่า นายเรโอ จึงออกอุบาย หลอกให้นายคิโยโตะ พบที่ห้องพักเลขที่ 719 ชั้น 7 อพาร์ตเมนต์แกรนด์ไฮ เทค ทางเวอร์ เพื่อมาตกแต่งต่อเติมห้องในวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เมื่อมาถึงนายเรโอกับใช้อาวุธปืนจี้นายคิโยโตะ ข่มขู่ให้ประสานติดต่อนายวาตานาเบ้ มาเข้าพบซึ่งระหว่างที่รอนายวาตานาเบ้ เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น นายเรโอ ได้กักขังหน่วงเหนี่ยวนายคิโยโตะ ภายในคอนโดฯ ทำร้ายร่างกายและใช้เชือกมัดมือเนื่องจากนายคิโยโตะ ไม่ยอมให้ความร่วมมือในช่วงแรก กระทั่งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนนายคิโยโตะ ได้ยอมติดต่อนัดพบกับนายวาตานาเบ้ ก่อนถูกอุ้มมาอยู่ที่คอนโดจุดเกิดเหตุและถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้นายเรโอ ยังข่มขู่นายคิโยโตะ ว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการในการลักพาตัวจนไม่กล้าคิดหนี จนกระทั่งภรรยาของนายวาตานาเบ้ ไม่สามารถติดต่อสามีได้และเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงตัดสินใจแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ก่อนทางเจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนจนสามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมดรวมทั้งให้การช่วยเหลือชีวิตเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้อย่างปลอดภัย

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส ส่วนประเด็นเรื่องการเรียกค่าไถ่หรืออุ้มฆ่านั้นขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาใดๆได้ทั้งสิ้น เนื่องจากผู้เสียหายยังอยู่ระหว่างพักฟื้นรักษาตัวและไม่พร้อมให้การกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ทางสถานฑูตญี่ปุ่นได้ส่งล่ามแปลภาษามาช่วยทางพนักงานสอบสวนเพื่อร่วมกันสอบปากคำตัวผู้ต้องหาเพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในช่วงเช้าของวันที่ 12 มิถุนายนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image