เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีหลบเลี่ยงภาษีลักลอบนำเข้ารถยนต์หรูว่า ดีเอสไอ ได้รับข้อมูลราคาการประเมินภาษีขาดจากทางกรมศุลกากรแล้ว จำนวน32 คัน ดังนั้นคาดว่าภายใน1-2 วันนี้ ดีเอสไอ จะเรียกผู้เกี่ยวข้องของบริษัทที่นำเข้ารถยนต์ราคาแพง ที่มีการหลบเลี่ยงภาษีมาแจ้งข้อหา ทั้งนี้ในส่วนของนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)จับกุมในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงนั้น หลังจากนี้ดีเอสไอจะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในส่วนของคดีที่ดีเอสไอรับผิดชอบ โดยจะดำเนินการตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าราคาภาษีขาดที่กรมศุลากรประเมินนั้นมีจำนวนเท่าไหร่ พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ภาษีที่ขาดอยู่ที่ยี่ห้อและรุ่น ของรถยนต์แต่ละคัน หากยกตัวอย่างรถลัมโบร์กินี รุ่นกัลลาร์โด 1คัน จะพบว่าราคาประเมินภาษีขาดอยู่ที่คันละกว่า10ล้านบาท ดังนั้นหากมีการชื้อขายอย่างถูกต้องตามหลักการประเมินภาษี ราคาเริ่มต้นรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าวจะอยู่ที่ ประมาณ 26 – 30 ล้านบาท ถ้าหากเป็นรถลัมโบร์กินี รุ่นอเวนทาดอร์ เพิ่มขึ้นอีก ราคาขายที่ถูกต้องน่าจะกว่า40ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทที่นำเข้าโดยการหลบลี่ยงอย่างผิดกฎหมาย จะถูกแจ้งข้อกล่าวเป็นรายคันหรือเหมารวม พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า การประเมินราคาภาษี จะเรียกเก็บเป็นรายคัน ส่วนการแจ้งข้อหานั้นต้องตรวจสอบช่วงเวลาของการนำเข้า ว่ามีความแตกต่างกันในวันเวลาหรือไม่อย่างไร แต่เบื้องต้นทราบว่ามีการนำเข้าเป็นล็อต ช่วงเวลาต่างกัน ดังนั้นเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ อย่างไรก็ตามคาดว่าในวันที่16 มิถุนายนนี้ดีเอสไอ จะแถลงรายละเอียดให้สื่อมวลชนทราบความคืบหน้าอีกครั้ง
รายงานช่าวแจ้งว่าพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้บริษัทที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหา ในการสำแดงราคาเป็นเท็จประมาณสัปดาห์หน้า
