รวบ3นักค้าสัตว์ป่า ตั้งกลุ่มลับขายในโลกโซเชียล ค้นห้องผงะ! พบซากเพียบ หัวนกเงือก-เล็บหมี

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 29 มิถุนายน ที่กองบังคับการ สืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.) ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฑี รองผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รองผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สุรพล ดาวแจ้ง สว.สส.4 บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.4 บก.สส.บช.น. นายถิรเดช ปาละสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ นายนุวรรต ลีลาพะตะ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ และนายนาวี ช้างภิรมย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ร่วมกันจับกุม 3 นักค้าสัตว์ป่า คือ นายเจนณรงค์ หรือเจน สายนาค อายุ 27 ปี น.ส.วัลภา หรือพลอย ขาวโชติช่วง อายุ 22 ปี นายโอภาส หรือเน็ค พุ่มพวย อายุ 25 ปี พร้อมของกลางซากสัตว์ป่าจำนวนมาก ประกอบด้วย ซากแมวดาว จำนวน 1 ชิ้น ซากหัวนกเงือกหัวแรด จำนวน 1 ชิ้น ซากหัวนกชนหิน จำนวน 1 ชิ้น เล็บหมี จำนวน 16 เล็บ หนังอีเห็น จำนวน 1 ชิ้น หน้าผากพร้อมเขาเก้ง จำนวน 3 อัน หน้าผากพร้อมเขาเลียงผา จำนวน 1 อัน เศษซากหนังเก้ง จำนวน 1 ชิ้น เศษซากหนังหมีควายจำนวน 1 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 2 แสนบาท โดยจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าย่านงามวงศ์วาน (ห้างพันธ์ทิพย์พล่าซ่า) อ.เมือง จ.นนทบุรี และขยายผลตรวจค้นห้องเช่าแห่งหนึ่งย่านวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.สุธีร์ กล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวมีการลักลอบค้าสัตว์ป่ามานาน เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนติดตามพฤติกรรมมาประมาณ 6 เดือน พบว่าจะมีการขายสัตว์ป่าผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยจะมีกลุ่มปิดลับในเฟซบุ๊ก ทั้งนี้จะมีการลักลอบขนส่งผ่านทางรถทัวร์ เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบพบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ” นม เย็น” มีพฤติกรรมลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงล่อซื้อเล็บหมี ก่อนจะขยายผลไปตรวจค้นห้องพักพบของกลางจำนวนดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าเล็บหมีที่ทำการล่อซื้อมาจากซากหมีที่ตายแล้วประมาณ 5 วัน ราคาที่จำหน่ายประมาณ 30,000 บาท ส่วนนกเงือกราคาขายจะอยู่ในหลักแสน

พล.ต.ต.สุธีร์ กล่าวต่อว่า ของกลางที่ตรวจยึดได้แม้จะดูว่าน้อย แต่เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของเรา โดยเฉพาะนกเงือกมีการจับกุมผู้ค้ามาโดยตลอด ถ้าไม่ช่วยกันรณรงค์ปราบปรามขบวนการเหล่านี้อีกไม่นานนกเงือกก็จะหมดจากป่าในประเทศไทย

Advertisement

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันค้าและมีไว้ในครอบครอง ซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนบก.ปทส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image