เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายโสภณ หรือชาย โกสินทร์ อายุ 36ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา นายสิทธิชัย หรือกาย โสลุน อายุ 24ปี ชาวจ.ปทุมธานี นายรัตนเทพ หรือนัท ชัยปราณีเดช อายุ21ปี ชาว จ.พัทลุง และนายปกรณ์ หรือต่อ ชูวงศ์ อายุ 24ปี ชาว จ.ปทุมธานี หรือ “แก๊งยันหว่าง” ผู้ต้องหาร่วมกันต่อสู้ขัดขวางและร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่3คนขึ้นไป และร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อให้พ้นการจับกุม ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี ระหว่างฝากขัง ว่า ได้รับรายงานจากนายนายสพภพ สังคุตแก้ว ผบ.เรือนจำพิเศษมีนบุรี ว่าก่อนนำตัวไปคุมขังในแดนแรกรับของเรือนจำได้ทำประวัติตรวจร่างกายกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด พบรอยฟกซ้ำตามร่างกายและใบหน้า เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นจากช่วงที่มีการทะเลาะวิวาท ก่อนถูกนำมาฝากขัง ทางเรือนจำได้บันทึกภาพตามขั้นตอนเข้าเรือนจำ ส่วนบาดแผลที่ต้องได้รับการรักษานั้นเรือนจำมีเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลประจำเรือนจำอยู่แล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการแสดงอาการก้าวร้าวหรือมีพฤติกรรมรุนแรงระหว่างคุมขังหรือไม่ นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ไม่มี โดยผบ.เรือนจำฯรายงานว่าอยู่เงียบๆ ยังไม่มีอาการโวยวาย หรือไปหาเรื่องทะเลาะเบาะแวงกับนักโทษรายอื่น แต่ถ้ามีเรือนจำมีมาตรการชัดเจน หากมีแนวโน้มสร้าวความวุ่นวายไปทำร้ายคนอื่น ตามระเบียบเรือนจำเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะใส่เครื่องพันธนาการ ตีตรวน ได้ แล้วแยกไปอยู่เฉพาะเพราะในเรือนจำจะมาวุ่นวายปั่นป่วนไม่ได้
นายกอบเกียรติ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาในลักษณะแบบนี้ เรือนจำสามารถรับมือได้สบายมาก เพราะจากประสบการณ์จะพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาลักษณะนี้เวลาอยู่ข้างนอกมีพวกเป็นเยอะ จะกล้าซ่าพอมาอยู่ข้างในเรือนจำเห็นหงอยทุกราย กลุ่มนี้ก็เช่นกัน
