โดน 2 ฝ่าย ตร.แจ้งข้อหา’ผจก.ขี่บิ๊กไบค์-ผศ.ขับเก๋ง’ฟาดปากชุลมุน-ชักมีดแทง

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ สน.วังทองหลาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายวัลลภ กิจพาณิชย์ อายุ 33 ปี คนขี่บิ๊กไบค์ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัทประกันภัยรถยนต์แห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ศุภชัย หมื่นอักษร รอง สว. (สอบสวน) สน.วังทองหลาง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาหลังคู่กรณีแจ้งความทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย และนำคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแจ้งความกลับในข้อหาพยายามฆ่ากับคู่กรณีด้วยนั้น

ต่อมาเวลา 13.30 น. ผศ.ชัยบูรณ์ กังสเจียรณ์ อายุ 57 ปี คู่กรณีรถบิ๊กไบค์เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ บรอนซ์เงิน ทะเบียน ฎย 9191 กรุงเทพมหานคร

โดย ผศ.ชัยบูรณ์กล่าวก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาตามถนนประดิษฐ์มนูธรรม ขึ้นสะพานข้ามถนนลาดพร้าว มีการเบี่ยงเลนเหลือ 3 เลน ช่วงขึ้นสะพานขับอยู่ขวาสุด ทางรถบิ๊กไบค์ได้เบิ้ลเครื่องใส่เพื่อขอทาง ก่อนขี่รถบิ๊กไบค์มาข้างรถแล้วเบิ้ลเครื่องอีกรอบก่อนปาดหน้ารถตน ตอนนั้นรู้ว่ารถตนโดนบิ๊กไบค์ชนทางซ้าย จึงตัดสินใจขับรถตาม แต่มีรถมาขวางทำให้บิ๊กไบค์เบรก รถตนจึงไปชนล้อหลังบิ๊กไบค์ ทางคนขี่รถบิ๊กไบค์หันมาด่า แล้วขี่รถหายไป จน 300 เมตรต่อมา ช่วงแยกเข้าถนนศรีวรา เจอกับคู่กรณี จึงจอดรถเช่นเดียวกับรถบิ๊กไบค์

ผศ.ชัยบูรณ์กล่าวต่อว่า จากนั้นคนขี่รถบิ๊กไบค์ลงมาหาตน พร้อมเปิดประตูรถแล้วพูดว่า “มึงชนกูทำไม” ก่อนต่อยเข้าที่ดั้งจมูก จังหวะนั้นตนรู้อยู่แล้วได้ถือมีดพับไว้ที่มือขวา แต่ไม่ได้ชักใบมีดออกมา แต่ได้ใช้มือขวาดันคู่กรณีถอยออกไป จึงดูเหมือนว่าตนแทงอีกฝ่าย แต่จริงๆ ไม่ได้แทง ก่อนจะเกิดการตะลุมบอน ตนเซไปท้ายรถ จังหวะสุดท้ายตนได้ชักใบมีดพับออกมาแล้วย้ายไปถือที่มือซ้าย ด้วยอารมณ์โมโห จึงพยายามแทงป้องกันตัว จังหวะเดียวกับที่โดนต่อยพอดี หากไม่ทำคงจะสาหัสกว่านี้ หากตั้งใจแทงจริงจะต้องเข้าชายโครงขวา ไม่ใช่ชายโครงซ้าย หลังเกิดเหตุเห็นว่าทุกอย่างจบ ก็ไม่ทำอะไรแล้ว ยืนเฉยๆ และไม่ได้ห้ามคู่กรณีไม่ให้ไปโรงพยาบาล แค่มีความพยายามจะเปิดหมวกออกให้เห็นหน้า เพราะยอมรับว่าโมโหมาก

Advertisement

ต่อมาเวลา 14.20 น. พ.ต.อ.ธรรมนูญ บุญเรือง ผกก.สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานตามรูปคดีที่ปรากฏ ในเบื้องต้นตามพยานหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่ามีการทำร้ายร่างกายกันอยู่ เป็นความผิดอาญาข้อหาทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย ส่วนข้อหาทำให้เสียทรัพย์เป็นเรื่องของคู่กรณีอีกฝั่งหากมีความประสงค์จะดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คู่กรณีเป็นอาจารย์อ้างว่าไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าหรือทำร้ายร่ายกายคนขี่บิ๊กไบค์รับฟังได้หรือไม่ พ.ต.อ.ธรรมนูญกล่าวว่า เป็นคำให้การของอีกฝ่ายหนึ่งที่ให้การกับเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำมาเป็นส่วนหนึ่งในหลักฐานในการดำเนินคดี แต่ทั้งนี้จะต้องดูองค์ประกอบพิจารณาในเรื่องอื่นด้วยทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัด ส่วนกล้องวงจรปิดจุดอื่นทางพนักงานสอบสวนรวบรวมภาพมาประกอบการพิจารณาเช่นกัน โดยจะหาพยานหลักฐานทั้งภาพถ่าย พยานบุคคล หรือพยานหลักฐานอื่นมาประกอบและเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำไปแล้ว 2 ปาก ทั้งฝั่งคนขับรถยนต์และคนขี่รถบิ๊กไบค์ และพยายามหาพยานที่เห็นและอยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เพื่อประกอบในสำนวนคดีเพิ่มเติม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image