ความคืบหน้าเหตุคนร้าย 6-7 คนมีอาวุธครบมือ ก่อเหตุปล้นรถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นธันเดอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส จากนายมะกอซี แนปีแน และภรรยา เหตุเกิดบริเวณริมถนน หมู่ 1 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในพื้นที่ สภ.ยะรัง เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 16 สิงหาคม ต่อมาเวลา 10.30 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ปกปิดใบหน้า พกพาอาวุธปืนและเครื่องมือสื่อสาร อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้รถคันที่ปล้นมาเข้าปล้นรถจากเต็นท์รถมือสอง วังโต้คาร์เซ็นเตอร์ ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ได้รถไปทั้งหมด 6 คัน มีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีเทา บฉ 7182 ยะลา รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน บธ 4063 พัทลุง รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ถศ 3050 กรุงเทพมหานคร รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน กอ 4995 สงขลา รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บห 5714 สงขลา และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ไฮแลนเดอร์ สีขาว ฆท 3327 กรุงเทพมหานคร โดยคนร้ายจับตัวนายสหรัฐ แหละนิ นายจิรศักดิ์ รัตนพันธ์ นายประทานพร นวลละมุล และนายธานีศักดิ์ ยีจีน รวม 4 คน ขึ้นรถไปด้วย และเมื่อถึงบริเวณสวนยางพารา บ้านควนหมาก หมู่ 3 ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา คนร้ายแก้มัดและให้ผู้ถูกจับนอนคว่ำหน้า ผู้ถูกจับได้พยายามหลบหนี คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง เป็นเหตุให้นายสหรัฐเสียชีวิต และนายประทานพรได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. ตำรวจ บช.ภ.9 ศชต. เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย และรถยนต์ที่ถูกประทุษร้ายไป โดยเวลา 12.15 น. พบรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บฉ 7182 ยะลา จอดทิ้งไว้บริเวณบ้านควนหมาก หมู่ 3 ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา ในพื้นที่ สภ.ห้วยปลิง จ.สงขลา ตามคดีอาญาเลขที่ 288/60 ลงวันที่ 16 ส.ค.60 เวลา 13.40 น. คนร้ายทราบชื่อ นายนูร์ฮาซัน อาแว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 หมู่ 2 ต.ตะลุโบ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน บธ 4063 พัทลุง ฝ่าด่านมั่นคงเกาะหม้อแกง ต.ท่ากาชา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ป้องกันตัวเป็นเหตุให้นายนูร์ฮาซันถึงแก่ความตาย จากการตรวจสอบในรถ พบวัตถุระเบิดและอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิด ถังน้ำมัน เหล็กเส้นตัดท่อน (แสวงเครื่อง) และอาวุธปืนพกสั้นที่ใช้ก่อเหตุ ซุกซ่อนภายในรถ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตามคดีอาญาเลขที่ 289/60 ช.13 ลงวันที่ 16 ส.ค.60
เวลา 14.28 น. คนร้ายขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน กอ 4995 สงขลา ภายในบรรจุวัตถุระเบิดแสวงเครื่องโดยใช้ถังแก๊สหุงต้มขนาด 15 กก. เป็นภาชนะบรรจุ โดยมีน้ำหนักวัตถุประมาณ 50 กก. ควบคุมการจุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร นำไปจอดริมถนนสาย 418 บ้านมะพร้าวต้นเดียว หมู่ 3 ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเมื่อรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.24 (ชุดแพทย์เคลื่อนที่) ขับผ่านมาในที่เกิดเหตุ คนร้ายได้จุดชนวนระเบิด เป็นเหตุให้ ร.ต.มนัส ธนาศรี และเจ้าหน้าที่ทหาร รวม 4 คน ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เวลา 15.30 น. พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีน้ำตาล ทะเบียน ถศ 3050 กรุงเทพมหานคร เป็นรถที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการจับตัวเจ้าของเต็นท์รถและลูกจ้าง จอดทิ้งไว้บริเวณสวนยางพารา บ้านแม่กัง ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ในพื้นที่ สภ.นาประดู่ จ.ปัตตานี
ต่อมาเวลา 03.50 น. วันที่ 17 สิงหาคม คนร้ายแต่งกายเป็นหญิง ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บห 5714 สงขลา ภายในบรรจุวัตถุระเบิด ไปจอดอยู่ริมถนนหน้าบ้านพักตำรวจ สภ.มายอ และจุดชนวนระเบิด เป็นเหตุให้ ส.ต.ท.สนธยา คงยืน นอนอยู่ในบ้านพักได้รับบาดเจ็บ และบ้านพักข้าราชการได้รับความเสียหาย เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.มายอ จ.ปัตตานี ตามคดีอาญาเลขที่ 250/60 เวลา 05.30 น. พบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน ฆท 3327 กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งไว้บริเวณโรงสูบน้ำประปา บ้านจือแรตันหยง หมู่ 1 ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี ในพื้นที่ สภ.เมืองปัตตานี และเวลา 12.00 น. พบรถกระบะยี่ห้อมาสด้า ธันเดอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส เป็นรถที่คนร้ายปล้นมาจากนายมะกอซี ท้องที่ สภ.ยะรัง จอดทิ้งไว้บริเวณสวนยางพารา บ้านวังโอ๊ะ-บ้านขายัง ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ในพื้นที่ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามรถที่ปล้นมาได้ครบ 7 คัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน รอง ผบช.ศชต. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.รณกร ศุภสมุทร รอง จตร. (สบ 7) พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 พล.ต.ต.ณัฐแก้ว เมตตามิตรพงศ์ ผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร. และคณะพนักงาน ร่วมประชุมเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย โดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติออกหมายผู้ต้องหา 5 รายต่อศาลจังหวัดนาทวี และศาลได้อนุมัติหมายจับนายอัตนันท์ สาอิ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 1 ต.ปลักหนู อ.นาทวี จ.สงขลา ตามหมายจับเลขที่ จ.275/60 นายสุไลมาน สาเหมาะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192/3 หมู่ 5 ต.ควนนารี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ตามหมายจับเลขที่ จ.274/60 นายบูคอรี หลำโสะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตามหมายจับเลขที่ จ.273/60 นายซารีซานอัมรี ตือราแม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 6 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตามหมายจับเลขที่ จ.276/60 และนายรอซาลี หลำโสะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 2 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตามหมายจับเลขที่ จ.277/60
ในความผิดรวม 11 ข้อหา ฐานร่วมกันก่อการร้าย สะสมกำลังพลหรืออาวุธ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สินหรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการก่อการร้าย ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อแบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดราชอาณาจักร เป็นอั้งยี่หรือซ่องโจรเพื่อก่อการร้าย ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่โรงเรียนและมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ปล้นทรัพย์ ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ร่วมกันมียุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ มีประวัติเคยกระทำความผิด และถูกออกหมายจับค้างเก่า ดังนี้ นายบูคอรี หลำโสะ มีหมายจับ 4 หมาย หมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 508/51 ลงวันที่ 26 พ.ค.51 คดีทำร้ายร่างกาย ท้องที่ สภ.ห้วยปลิง หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.52/60 ลงวันที่ 11 ม.ค.60 คดีฆ่าผู้อื่น ท้องที่ สภ.โคกโพธิ์ หมายจับ พ.ร.ก.ศาล จว.ปัตตานี ฉฉ.ที่ 37/59 ลงวันที่ 25 มี.ค.59 หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ 338/60 ลงวันที่ 15 พ.ค.60 คดีร่วมกันก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันพยายามปล้นทรัพย์ ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด ร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ นายซารีซานอัมรี ตือราแม มีหมายจับ 1 หมาย หมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 406/57 ลงวันที่ 18 มิ.ย.57 คดีก่อการร้าย ท้องที่ สภ.หาดใหญ่
นายสุไลมาน สาเหมาะ มีหมายจับ 6 หมาย หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.147/53 ลงวันที่ 25 มิ.ย.53 คดีพยายามฆ่า ท้องที่ สภ.โคกโพธิ์ หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ 239/53 ลงวันที่ 16 ก.ค.53 คดีฆ่าผู้อื่น ท้องที่ สภ.โคกโพธิ์ หมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 187/57 ลงวันที่ 16 มิ.ย.57 คดีทำให้เกิดระเบิด ท้องที่ สภ.หาดใหญ่ หมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 346/2558 ลงวันที่ 16 ก.ค.58 คดีจ้างวานฆ่า ท้องที่ สภ.ปาดังเบซาร์ หมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.222/2558 ลงวันที่ 22 ก.ค.58 คดีลักทรัพย์ ท้องที่ สภ.แม่ลาน และหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.314/2559 ลงวันที่ 13 ก.ย.59 คดีพยายามฆ่า ท้องที่ สภ.โคกโพธิ์ นายรอซาลี หลำโสะ หมายจับ พ.ร.ก.ศาล จว.ปัตตานี ฉฉ.ที่ 149/57 ลงวันที่ 4 พ.ย.57 นอกจากนี้ สำหรับนายนูร์ฮาซัน อาแว (เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สภ.หนองจิก)
สำหรับอาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนของกลางที่ยึดได้ ตรวจสอบพบว่า อาวุธปืนที่ใช้ยิงนายสหรัฐถึงแก่ความตาย คนร้ายใช้ก่อเหตุมาแล้ว 21 ครั้ง (ตั้งแต่ปี 2551) และอาวุธปืนที่นายนูร์ฮาซันใช้ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนร้ายเคยใช้ก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาศาลจังหวัดนาทวี อนุมัติหมายจับนายอับดุลเลาะ มะแด อายุ 34 ปี เป็นผู้ต้องหารายที่ 6 และล่าสุด ศาลจังหวัดปัตตานีอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง6คนในข้อหาเดียวกันด้วย
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า สั่งการให้เร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลคลี่คลายคดี ขณะเดียวกันสั่งการให้ บช.ภ.9 ร่วมกับ ศชต. ตชด. ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับแผนการตั้งด่านตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันคนร้ายก่อเหตุ โดยให้ศึกษาวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของคนร้ายเพื่อป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยและป้องกันเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง วิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการก่อเหตุรูปแบบต่างๆ ให้วางแผนป้องกัน ตั้งจุดตรวจจุดสกัดให้ครอบคลุมทั้งเส้นทางหลักเส้นทางรองเส้นทางเลี่ยง โดยย้ำว่าการตั้งจุดตรวจตั้งด่านตรวจของตำรวจนั้นให้คัดเลือกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีคุณภาพมีศักยภาพและมีประสบการณ์เพื่อลดความสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเป้าของคนร้าย และเพื่อให้การตั้งด่านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสั่งการให้รายงานผลการศึกษาและวางแผนการป้องกันให้ตนทราบโดยเร็วที่สุด
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คนนั้นยังไม่ใช่ผู้ต้องหาตามหมายจับแต่เป็นการควบคุมตัวตามการขยายผลจากการสืบสวน
