‘บิ๊กต๊อก’ถก’ศอ.ปส.’กำหนดแผนชุมชนปลอดยา 2 เดือน เล็งใช้ม.44 ฟันจนท.รัฐ หากปล่อยปละละเลย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 มีนาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.) เป็นประธานการประชุม ศอ.ปส. ครั้งที่ 1/2559 ซึ่งมีประเด็นการพิจารณาประกอบด้วยการพิจารณาแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2559-2560 และมาตรการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมีผู้บริหารจากกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม เช่น นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทหารและตำรวจ กว่า 100 คน โดยมีนายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการ ป.ป.ส.เป็นผู้ให้การต้อนรับ

image

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาปัญหายาเสพติดยังไม่หมดไปในความรู้สึกของประชาชน จากการที่วิเคราะห์และได้ดูแลงานของ ป.ป.ส. รวมถึงทำงานร่วมกับกองทัพ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งผลการประเมินของหน่วยองค์กรยาเสพติดโลกกับสิ่งที่เราดูเลขสถิติรายใหม่ สถิติการจับกุมยาเสพติด ทุกอย่างดีขึ้น แต่ทำไมความรู้สึกชาวบ้านจึงยังรู้สึกว่าเป็นภัยตลอดเวลา ซึ่งยาเสพติดที่เข้ามาในประเทศไทยจากสถิติเก่าพบปัจจุบันมีจำนวนลดลงมาก แต่ไม่ได้ปลดปล่อยความรู้สึกของประชาชนที่ว่ายาเสพติดในหมู่บ้านหรือชุมชนลดลง ทั้งนี้ ในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อสรุปแผนปฏิบัติงานทั้งหมด ก่อนเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มานั่งเป็นประธาน เพื่อสรุปลงรายละเอียดการดำเนินการต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการเพิ่มมาตรการในการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ทำไมชาวบ้านถึงรู้ว่าใครเสพหรือค้ายาเสพติด แต่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่จึงไม่ทราบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนจะเป็นอย่างนั้น เราพูดถึงภาพรวม ดังนั้น จึงต้องมีมาตรการจัดการกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งใช้มาตรการเดียวกับการแก้ไขปัญหาสถานบริการเปิดเกินเวลา จึงต้องมีมาตรการลงโทษ แต่ก็ไม่ได้ลงโทษเพียงอย่างเดียว หากเจ้าหน้าที่คนไหนปฏิบัติหน้าที่ดีก็จะมีการพิจารณาเลื่อนขั้นเลื่อนอะไรไป ไม่ใช่เน้นการลงโทษอย่างเดียว ไม่ใช่อยากย้ายใครก็ย้าย ซึ่งเป็นการประเมินเจ้าหน้าที่ด้วย

Advertisement

image

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า มาตรการการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น เป็นมาตรการหนึ่งในแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2559-2560 โดยแผนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ผ่านมาได้ดำเนินมาตรการในการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่แล้ว แต่ตามแผนกลไก “ประชารัฐ” ได้เพิ่มมาตรการการเอาผิดและดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย โดยกรณีที่มีการพบเห็นสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่จากข้อร้องเรียนทั่วไป ทั้งนี้ จากข้อมูลการข่าวและการสืบสวน และจากข้อมูลของประชาชนในพื้นที่ ผอ.ศอ.ปส.จะมีคำสั่งให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนจับกุมและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ไม่ให้มีการค้าหรือจำหน่ายยาเสพติด

“หากพบว่าสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ยังคงมีอยู่และยังไม่ได้มีการดำเนินการตามคำสั่งภายในระยะเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง ให้ถือว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวปล่อยปละละเลย หรือเพิกเฉยต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ ผอ.ศอ.ปส.เสนอต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาสั่งการให้ย้ายเจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่อื่นแทน หรือให้ดำเนินการทางวินัยตามที่เห็นสมควร เพื่อเป็นการลดอุปสรรคของการแก้ไขปัญหายาเสพติด” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะนำไปสู่การใช้มาตร 44 หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ต้องใช้ เหมือนเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมา แต่จะเป็นประเด็นสุดท้าย หากจำเป็นจึงจะใช้

เมื่อถามถึงมาตรการหากพบบุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้มารายงานตัวปรับทัศนคติ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ในชุมชน หมู่บ้าน มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านดูแล ก็ให้เข้ามารับการบำบัดได้ ทั้งจาก สธ. หรือ ยธ. เพราะเราไม่ได้ทำเรื่องปราบปรามอย่างเดียว ยังมีทั้งเรื่องการบำบัดการรักษา ซึ่งจะทำควบคู่กันไป และจะดูว่าจุดไหนขาดตกบกพร่องไป ทั้งนี้ แผนดังกล่าวคิดว่าถ้าเราทำจริง ซึ่งมีพื้นที่ตัวอย่างอยู่ 700 ชุมชน ที่ มท.ได้ชี้แจง 2 เดือนก็น่าจะเสร็จ เราจะใช้ระบบนี้ไปกับพื้นที่ที่เราเพ่งเล็ง ก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าหลังจากที่เราประกาศ 2 เดือนก็น่าจะเห็นผล แต่ทุกหน่วยก็เตรียมการแล้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image