เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ต.อ. สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีมติให้ยึดทรัพย์สินรายนายเกา ฮั่น เจี๋ย, นายสู่ เซียน จี้ กับพวกไว้ชั่วคราว จำนวน 1 รายการ ธนบัตรไทย จำนวน 10,979,600 บาท ก่อนหน้านี้สำนักงาน ปปง.ได้รับรายงาน ตำรวจภูธรช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับพฤติกรรมของชาวจีน (ไต้หวัน) รายนายเกา ฮั่น เจี๋ย , นายสู่ เซียน จี้ กับพวก ในความผิดฐาน “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์หรือร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” เมื่อปี 2552 เพื่อให้สำนักงาน ปปง.ตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน สำนักงาน ปปง. พบว่า นายเกา ฮั่น เจี๋ย สัญชาติไต้หวัน อ้างว่ามีกลุ่มคนร้ายชาวไต้หวัน จำนวน 6 คน ปล้นทรัพย์ไปได้ทรัพย์สินจำนวนประมาณ 10 ล้านบาท ณ บ้านเลขที่ 259 ถนนป่าตัน ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วหลบหนีไปเมื่อปี 2552 แต่จากการสืบสวนสอบสวน พบว่า นายเกา ฮั่น เจี๋ย , นายสู่ เซียน จี้ กับพวก มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 3 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (3) ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ด้วยรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หลอกลวงให้ประชาชนโอนเงินด้วยกลอุบายต่างๆ ตามที่ได้วางแผนไว้
เลขาธิการ ปปง.กล่าวด้วยว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุปล้นทรัพย์ในคดีนี้เป็นช่วงเวลาที่สถานที่หลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวจีนไต้หวัน ซึ่งน่าเชื่อว่า บ้านเลขที่ 259 ถนนป่าตัน ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การที่นายเกา ฮั่น เจี๋ย แจ้งความร้องทุกข์แล้ว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมจำเลยทั้ง 4 พร้อมยึดของกลางได้ แต่นายเกา ฮั่น เจี๋ย กลับเร่งรีบเดินทางกลับสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในเช้าวันรุ่งขึ้นทันที โดยไม่อยู่ขอรับเงินของกลางที่อ้างว่าเป็นของตนก่อน และไม่ยอมเดินทางกลับมาประเทศไทยอีก แสดงให้เห็นถึงความมีพิรุธ ว่าเงินจำนวนดังกล่าวต้องเป็นเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ในอันที่ตนในฐานะผู้เสียหายซึ่งถูกแย่งชิงเงินไป ชอบที่จะใช้สิทธิขอรับเงินจำนวนมากคืน จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายเกา ฮั่น เจี๋ย นายสู่ เซียน จี้ กับพวกแจ้งความเท็จ และทรัพย์สินที่แจ้งว่าโดนปล้นไป มีธนบัตรไทย จำนวน 10,979,600 บาท บาท เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนที่มีลักษณะของการกระทำผิดในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เลขาธิการ ปปง.กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สำนักงาน ปปง.ดำเนินการจัดทำ “แบบคำร้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน” ทั้งแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว ผู้เสียหายสามารถดาวน์โหลดแบบดังกล่าวได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน ปปง. www.amlo.go.th หรือมารับได้ที่ส่วนรับเรื่องร้องเรียน กองสื่อสารองค์กร สำหรับผู้เสียหายที่เป็นชาวต่างประเทศ หากมีความประสงค์จะยื่นคุ้มครองสิทธิดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดแบบคำร้องภาษาอังกฤษได้ ทั้งนี้จะต้องแปลเป็นภาษาไทยและต้องรับรองลายมือชื่อจากกระทรวงการต่างประเทศ หรือโนตารี พับลิค (NOTARY PUBLIC) แนบมาพร้อมหลักฐานต่างๆ ที่ใช้ประกอบการยื่นคำร้องด้วย หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน ปปง. 1710 และเว็บไซต์สำนักงาน ปปง. www.amlo.go.th
