จับสาวป.โท ตั้งเฟซบุ๊ก”กลุ่มรับทรัพย์-บ้านเลขที่5″ตุ๋นลงทุนกำไรงาม เหยื่อนับร้อยสูญ160ล้าน

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 กันยายน ที่กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. และพ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ แถลงจับกุม น.ส.ณิชภัทร ภัทรธาดา อายุ 32 ปี นักศึกษาปริญญาโท คณะบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน รวม2หมายจับ โดยจับกุมได้ที่หอพักภู-ภีม ต.หนองแสง อ.เมือง จ.นครพนม

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 น.ส.ณิชภัทร เปิดกลุ่มเฟซบุ๊ก ชื่อ “กลุ่มรับทรัพย์” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น “บ้านเลขที่ 5” น.ส.ณิชภัทร เป็นผู้ดูแล และตั้งชื่อในเฟซบุ๊กว่า “Mai Ka” ชักชวนให้คนรู้จักเข้าร่วมจนมีสมาชิกภายในกลุ่ม 334 คน เชิญชวนให้สมาชิกลงทุน ราคาหุ้นละ 100 บาทต่อหุ้น ล่อใจว่าจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนในอัตรา ร้อยละ 3 ต่อ 7 วัน เมื่อครบ 7 วันจะคืนเงินทุนให้ ช่วงแรกมีการกำหนดว่าห้ามลงทุนเกิน 50,000 บาทต่อคน มีการจ่ายเงินจริงเมื่อถึงกำหนด ทำให้เกิดความน่าสนใจและมีคนหลงเชื่อ ต่อมามีการชักชวนให้ลงหุ้นเพิ่มขึ้น โดยมีทองคำเป็นผลตอบแทนนอกเหนือจากเงินปันผลร้อยละ3ต่อ7วัน เช่น ถ้าลงทุน100,000บาท จะได้ทองคำเพิ่มอีก 1 สลึง ทำให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่มถึงหลักล้านบาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า น.ส.ณิชภัทร อ้างว่าจะนำเงินที่ผู้เสียหายลงทุน ไปลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร และกองทุนอื่นๆ เมื่อสมาชิกรายใดร่วมลงทุนจะมีเงินปันผล พร้อมเงินต้นคืนให้ จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จนกระทั่งประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา น.ส.ณิชภัทร ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เริ่มไม่มีการจ่ายเงินปันผล ผู้เสียหายจึงขอถอนเงินลงทุนพร้อมเงินปันผลคืน แต่ทางน.ส.ณิชภัทร ไม่สามารถคืนเงินให้ผู้เสียหายได้ และหลบหนีไป ก่อนมาถูกจับกุม คดีนี้มีผู้เสียหายทั่วประเทศหลาย 100 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ160ล้านบาท จากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า น.ส.ณิชภัทร นำเงินจากผู้เสียหายไปซื้อทั้งบ้าน คอนโดมิเนียม รถยนต์ มูลค่ากว่า 16 ล้านบาท บางส่วนนำไปเล่นการพนัน (ประเภทหวย) จะตรวจสอบว่ามีผู้อื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ และตามกฎหมายฟอกเงิน จะประสานป.ป.ง.ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและยึดทรัพย์สินต่อไป

สอบสวน น.ส.ณิชภัทร ให้การทั้งน้ำตาว่า เห็นเฟซบุ๊กอื่นทำในลักษณะเดียวกัน คิดว่าได้เงินดีจึงตั้งกลุ่มขึ้นมา เพราะอยากได้เงิน จากการทำหน้าที่เป็นคนกลาง ช่วงแรกจ่ายเงินปันผลคืนให้กับสมาชิกได้ราคาร้อยละ 3 ขณะที่ตนได้ค่าตอบแทนร้อยละ 6 มีเงินหมุนเวียนประมาณ 50 ล้านบาท จนระยะหลังเกิดปัญหาหมุนเงินไม่ทัน ทำให้ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินปันผล อีกทั้งตนยังเป็นหนี้นอกระบบ ถูกเจ้าหนี้ตามทวงตลอด จึงตัดสินใจหลบหนีไปพักตามโรงแรมจังหวัดต่างๆ กระทั่งถูกจับกุมตัว ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีเจตนาโกง แต่เมื่อทำให้ผู้เสียหายต้องเสียหายและโกรธแค้น ก็ขออโหสิกรรมด้วยบทเรียนในครั้งนี้คือความโลภ ไม่รู้จักพอ อาจนำมาซึ่งการไม่เหลืออะไรเลย

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะแถลงข่าว ผู้เสียหายประมาณ 20 คน ที่ถูกน.ส.ณิชภัทร หลอกให้ร่วมลงทุน ร่วมรับฟังด้วย ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนสนิทกับคนรู้จักกับน.ส.ณิชภัทร แต่ละคนถูกหลอกสูญเงินไปหลายล้านบาท หลายคนต้องเป็นหนี้นอกระบบจากการร่วมลงทุน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัว เพราะสร้างความเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image