ลิสต์’14จุดค้นทุจริตงาบเงินทอนวัด ตะลึงบ้าน’อดีตผอ.พศ.’พบทองแท่ง80บาท โฉนด6แปลงซุกเซฟ ส่วนบ้านลูกชาย’ผอ.ส่วน’สร้างบ้านแพงแต่ขายถูก
จากกรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) ตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัด(โอนเงินให้วัดแล้วเรียกรับเงินทอนคืน) โดยล็อตแรกเป็นการทุจริตงบประมาณอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด12วัด ตั้งแต่ปี 2555-2559 ความเสียหายประมาณ60ล้านบาท มีผู้ต้องหา10 คน พร้อมส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิด
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กันยายนตำรวจ ปปป.นำกำลังตรวจค้นบ้านบุคคลต้นสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่2รวม14จุดใน7จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ขอนแก่น ระนอง สิงห์บุรี นครปฐม และสมุทรสาคร เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงกระบวนการทุจริตเงินทอดวัด และพบว่าเป็นการทุจริตงบประมาณอุดหนุน3ประเภท มี 1. อุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด 2.อุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ3.อุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ-แผนกธรรม-แผนกบาลี23วัด ตั้งแต่ปี 2555-2560 ความเสียหายประมาณ141 ล้านบาท จนมีหลักฐานให้ออกหมายเรียกบุคคลมารับทราบข้อกล่าวหา19 ราย ประกอบด้วย
นายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(อดีตผอ.พศ.) นายณรงค์เดช ชัยเนตร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.)สิงห์บุรี นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการพศ. นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผอ.กองพุทธศาสนสถาน พศ. และนายพยงค์ สีเหลือง นายช่างโยธา ชำนาญงาน พศ. เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
ส่วน นายบุญเลิศ โสภา อดีตผอ.กองพุทธศาสนศึกษา เป็นผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.)ลำปาง นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร ผอ.กลุ่มการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญพศ. นายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผู้ตรวจราชการพศ. นายแก้ว ชิดตะขบ ผอ.การสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสงคราม นายไพฑูรย์ กรรณโม (ไม่ทราบตำแหน่ง) ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา
รวมถึงผู้ต้องหา5คน ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อตแรก และมีชื่อในล็อตที่2ด้วย มี นายนพรัตน์ เบญจวัฒนะ อดีตผอ.พศ.(หนีไปต่างประเทศ) นายวสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ พศ. นางประนอม คงพิกุล รองผอ.พศ. นางณัฐฐาวดี ตันตยาวิสาส นักวิชาการ พศ.และนายศิวโรจน์ ปิยรัตน์เสรี(ไม่ใช่ข้าราชการ) ส่วนที่เหลือเป็นพระสงฆ์4รูปนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กันยายน แหล่งข่าวจากปปป.เปิดเผยผลปฏิบัติการตรวจค้น ยึด อายัด 14 จุดเมื่อวันที่ 21กันยายนที่ผ่านมา โดยจุดแรก ลาดพร้าวซอย 18 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จุดนี้เป็นเครือข่ายของนายณรงค์เดช ตำรวจได้เพียงแค่สอบปากคำคนในบ้าน แต่ไม่พบบุคคล หรือตรวจยึดหลักฐานใด จุดที่ 2 ในอ.เมือง จ.ขอนแก่น ยึดเอกสารของนายณรงค์เดช ประกอบด้วย สมุดบัญชีธนาคารพาณิชย์ 9 เล่ม โฉนดที่ดิน และคู่มือรถอีก 1 เล่มไว้ตรวจสอบ
จุดที่ 3 บ้านนายพัฒนา ในต.บางระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม ยึดเอกสารเกี่ยวข้องกับ พศ.จำนวนหนึ่ง พร้อมสมุดบัญชี และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องรวม 1 กล่อง จุดที่ 4 บ้านของนายพนม ในหมู่บ้านบลูเลอวาร์ด ในต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จุดนี้พบทองคำแท่งน้ำหนักราว 80 บาท โฉนดที่ดินมากกว่า 6 แปลง ถูกเก็บไว้ในตู้เซฟบนชั้น 2 ของบ้าน จุดที่ 5 บ้านของนายบุญเลิศ ในต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบภรรยาของนายบุญเลิศ ซึ่งตำรวจได้สอบปากคำ พร้อมเก็บหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน เอกสารปืนพก พร้อมสมุดบัญชีเงินฝาก และใบเสร็จหุ้นสหกรณ์ไว้ตรวจสอบ
จุดที่ 6 บ้านนางพรเพ็ญ ในอ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จุดนี้ไม่มีการตรวจยึดหลักฐานใดๆ จุดที่ 7 บ้านนายฉัตรชัย ในต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง ทางปปป.ตรวจยึดรถยนต์ สมุดบัญชีธนาคาร จุดที่ 8 ที่พักของนายฉัตรชัย ภายในหมู่บ้านรังสีเพลส ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล พบโฉนดที่ดิน หนังสือการขาย และหนังสือเงินกู้ จุดที่ 9 บ้านนายพยงค์ ในจ.สมุทรสาคร พบสมุดบัญชี คู่มือรถจักรยานยนต์ และเอกสารจำนวนหนึ่ง จุดที่ 10 บ้านของนายไพฑูรย์ ในอ.สามพราน โดยนายไพฑูรย์เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างวัดใหญ่ๆ หลายแห่งในกรุงเทพฯ ไม่มีการตรวจยึดเอกสารแต่อย่างใด
จุดที่ 11 บ้านอดีตภรรยา ของนายนพรัตน์ อดีต ผอ.พศ. ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ยึดเอกสารการเงิน 21 รายการ จุดที่ 12 บ้านบุตรชายนายวสวัสดิ์ เป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ในเขตบางแค การสอบสวนพบว่าบ้านหลังนี้ถูกประกาศขายในราคาราว 3 ล้านบาท ทั้งที่ถูกสร้างในราคาราว 4-5 ล้านบาท ตำรวจยึดเอกสาร พร้อมบัญชีธนาคารไว้ตรวจสอบ จุดที่ 13 บ้านแม่ยายนายนพรัตน์ จุดนี้ยึดทรัพย์จากตู้เซฟเป็นเงินสด 1.7 แสนบาท อัญมณีพลอยจำนวนหนึ่ง ใบเสร็จการซื้อ-ขายที่ดินที่จ.จันทบุรี สำเนาเงินเดือน พร้อมใบเสร็จสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงศึกษาของนายนพรัตน์ไว้ตรวจสอบ และจุดที่14 ในจ.สิงห์บุรี ที่พักของนายณรงค์เดช ไม่พบตัวบุคคล และไม่ได้ตรวจยึดเอกสารใดๆ
