เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายอายุฒม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือเสี่ยบิ๊ก อายุ 39 ปี นักธุรกิจและประธานบริหารสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอม ฉ้อโกงเงิน 2,500 ล้านบาท จากกองทุนส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครู และบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) หลังศาลอนุญาตให้ฝากขังผัดแรก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม -30 มกราคมว่า เรือนจำได้รับตัวนายสัมฤทธิ์ มาควบคุมตัวยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา
นายอายุฒม์กล่าวว่า เรือนจำได้ทำตามขั้นตอนระเบียบเรือนจำตามปกติ ตรวจสุขภาพและทำประวัติผู้ต้องขัง ก่อนนำตัวนายสัมฤทธิ์ไปควบคุมตัวยังแดนแรกรับ ห้องหมายเลข 13 ซึ่งมีผู้ต้องขังรายคดีอื่นอยู่ด้วยประมาณ 20 คน เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ปรับตัว โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนจำแนกลักษณะผู้ต้องขังไปยังแดนที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสุขภาพของนายสัมฤทธิ์ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่พบว่ามีโรคประจำตัว อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านคืนแรกที่นายสัมฤทธิ์ถูกควบคุมตัวนั้น นายสัมฤทธิ์ไม่มีอาการเครียดหรือกังวลแต่อย่างใด
นายอายุฒม์กล่าวต่อว่า สำหรับเช้าวันนี้ทางครอบครัวและคนใกล้ชิดของนายสัมฤทธิ์ได้ทยอยกันเดินทางมาเข้าเยี่ยม ส่วนอาหารมือเช้านายสัมฤทธิ์ได้รับประทานอาหารตามปกติที่ทางเรือนจำจัดไว้ให้ ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลนายสัมฤทธิ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังในคดีสำคัญ
