‘จักรทิพย์’มอบนโยบาย 469 นายพล ปีที่ 3ผบ.ตร.ชู 6 ข้อ เน้นจิตอาสา เฝ้าระวังละเมิดสถาบัน พอใจ 2 ปีตำรวจดีขึ้น!

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการสัมมนามอบนโยบายการบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปีงบประมาณพุทธศักราช 2561 โดยมี ผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถึงผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 24 นาย ระดับผู้บัญชาการ 40 นาย รองผู้บัญชาการ 139 นาย และระดับผู้บังคับการ 265 นาย รวม 469 นายร่วมรับฟัง ทั้งนี้ จเรตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้านต่างๆ ขึ้นมอบนโยบายในแต่ละสายงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการมอบนโยบาย มีการเปิดวีดิทัศน์นโยบาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ย้อนผลงาน 2 ปีแล้วก้าวสู่ปีที่ 3 เนื้อหาความว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ มุ่งเน้นการทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและนโยบายรัฐบาลให้บรรลุผล อย่างเป็นรูปธรรม มีความโปร่งใส ชัดเจน ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลอย่างเต็มกำลังความสามารถ ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ด้วยการกระจายอำนาจลงสู่ระดับสถานีตำรวจ จนเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมในหลายๆ ด้าน มุ่งเน้นเป้าหมายการปฏิบัติงาน เป็นหลักประกันความยุติธรรม และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่มีมาตรฐานสากล โดยตลอดปี 2559-2560 ที่ผ่านมา ได้จัดซื้อาวุธปืน รถยนต์และรถจักรยานยนต์ทดแทนส่วนที่ขาดจำนวนมาก ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2561 สานต่อนโยบายมุ่งเน้นภารกิจ ตามเป้าหมายสำคัญ 6 ประการ ดังนี้

“1.การพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดพระเกียรติเพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นภารกิจสำคัญสูงสุดที่ผิดพลาดไม่ได้ ตำรวจทุกนายต้องศึกษาระเบียบที่เกี่ยวข้องและทำให้ถูกต้อง รวมทั้งเฝ้าระวังตรวจสอบปราบปรามผู้ที่ละเมิดสถาบันทุกมิติ และเตรียมความพร้อมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 2.การรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในสังคม ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในมิติความมั่นคงเพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข เป็นที่ยอมรับของอารยประเทศ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ 3.การป้องกันปราบปรามและลดระดับอาชญากรรม มุ่งเน้นลดการเกิด ลดความรุนแรง หากเกิดเหตุต้องจับกุมผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ดึงประชาชนเป็นศูนย์กลางในนโยบายป้องกันอาชญากรรม 4.การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ มุ่งเน้นปราบปราม จับกุม ลดการลักลอบการนำเข้าจากต่างประเทศ สร้างเกราะป้องกัน สร้างการรับรู้พิษภัย และโทษแก่ประชาชน 5.การเร่งรัดขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปองค์กรตำรวจในยุคประชาคมอาเซียน เพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่ สร้างองค์ความรู้ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สร้างเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ และ 6.การเสริมสร้างความสามัคคี และการบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจมุ่งเน้นอุดมคติตำรวจ 9 ประการ ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เอาใจใส่ดูแลให้เกิดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้นโยบายจะขับเคลื่อนได้ ต้องเข้าใจนโยบายและขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ตำรวจทุกนายต้องเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กันอย่างเป็นตำรวจอาชีพ ให้สมกับที่สังคม ประชาชนตั้งความหวังไว้” นโยบาย ผบ.ตร.ระบุ

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ให้สัมภาษณ์ว่า พอใจกับ 2 ปีที่ผ่านมา รอง ผบ.ตร. -ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทุกคนให้ความร่วมมือดี ปีแรกในตำแหน่ง ผบ.ตร. เน้นนโยบายการปรับภาพลักษณ์ตำรวจ โดยมองว่าดีขึ้นดำเนินการกับตำรวจที่ออกนอกแถวไปหลายนาย และเชื่อว่าประชาชนรู้สึกได้ว่าตำรวจดีขึ้น นโยบายในปีที่ 2 เน้นไปที่การยกระดับโรงพัก บำบัดทุกข์บำรุงสุข โดยตำรวจทุกหน่วยร่วมแรงร่วมใจกันดี คดีสำคัญเกิดขึ้นก็ร่วมแรงร่วมใจกันสืบสวนจับกุมคนร้าย ปีนี้ปีที่ 3 เน้นการเข้าร่วมโครงการหน่วยพระราชทาน ประชาชนจิตอาสาอย่างเต็มรูปแบบเราทำความดีด้วยหัวใจ โดยเฉพาะช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตำรวจทุกนายก็ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบอย่างเต็มความสามารถ

ผบ.ตร.กล่าวว่า ปีนี้ต้องรับมือกับอาชญากรรมที่เปลี่ยนไปตามสภาพสังคม โดยจะมีการประชุมสั่งการในทันที่ต่อสถานการณ์ คดีไหนที่ตนจำเป็นต้องลงไปทำเองก็จะไปช่วยผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อสร้างความอุ่นใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งนี้ ในเวทีนี้ไม่พูดถึงการปฏิรูปตำรวจ แต่ส่วนหนึ่งตำรวจก็ปฏิรูปตัวเองอยู่แล้ว คู่ขนานกับการกำหนดทิศทางปฏิรูปของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งยอมรับว่าตั้งคำถามถึงแนวทางการปฏิรูปของคณะกรรมการชุดใหญ่ตามรัฐธรรมนูญบางอย่าง เช่น การถ่ายโอนภารกิจ ซึ่งตำรวจไม่ขัดข้องในการโอนภารกิจไป แต่ไม่แน่ใจว่าหน่วยที่จะรับโอนไปมีความพร้อมรองรับภารกิจหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image