| ผู้เขียน | พนิตนาฏ พรหมบังเกิด |
|---|---|
| เผยแพร่ |
นับเป็นภารกิจที่สำคัญสูงสุดในชีวิต ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการถวายการรักษาความปลอดภัยในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ที่โซเชียลมีเดียต่างพากันแชร์ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ รวมถึงภาพประทับใจขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนตากฝนด้วย
‘มติชน’สัมภาษณ์ความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งที่ถวายงานในภารกิจสำคัญครั้งนี้
พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รรท.รองผบช.ภ.7) กล่าวว่า ตนเป็นผู้บังคับการเหตุการณ์พื้นที่12 บริเวณพระเมรุมาศจำลอง พระลานพระราชวังดุสิต(ลานพระบรมรูปทรงม้า) ได้รับมอบหมายหน้าที่ตั้งแต่วันที่6ตุลาคมจนถึงวันที่30ตุลาคม โดยในวันที่26ตุลาคมนั้นเป็นงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตนปฏิบัติหน้าที่วางกำลังตามจุดพื้นที่ที่รับผิดชอบตั้งแต่เวลา04.30น.วันที่ 26 ตุลาคม กระทั่งถึงเวลา02.30น.วันที่27ตุลาคม โดยในเวลา05.00น.ของวันที่26ตุลาคม มีประชาชนเดินทางมาจำนวนมาก ทุกคนมุ่งมั่นเพื่อมาถวายดอกไม้จันทน์จนเวลา 09.00 น. ประชาชนแน่นเต็มทุกพื้นที่
พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวต่อว่า ต่อมาเวลา15.00 น. ฝนตกลงมาอย่างหนักในขณะนั้นตนยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ แต่ฝนก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย เพราะทุกคนยังคงปักหลักรอเข้าถวายดอกไม้จันทน์ ไม่รู้สึกเลยว่าตอนนั้นฝนตก คิดแค่เพียงว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนที่เดินทางมาได้เข้าไปถวายดอกไม้จันทน์จนครบก่อนเวลา24.00น.เพราะทราบดีว่าประชาชนทุกคนที่มาต้องการถวายดอกไม้จันทน์ให้แก่ในหลวงรัชกาลที่9 ตั้งแต่ตนรับราชการตำรวจเป็นเวลา20-30 ปี การถวายงานครั้งนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เป็นความปลื้มปีติและความภาคภูมิใจที่ได้ถวายงาน
“หลังฝนตกหนักได้พูดคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่ในเวลาดังกล่าวและพูดคุยกับประชาชน ทำให้ทราบว่าไม่ว่าฝนจะตกแค่ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความมุ่งมั่นของพวกเขาที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชแต่อย่างใด”พล.ต.ต.สมประสงค์เผย
ด้าน ส.ต.ต.พีรวิชญ์ เจ๊กจั่น ผบ.หมู่ ป. สภ.ดงละคร จ.นครนายก เล่าว่า มีคำสั่งให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 23-27 ตุลาคม และชุดที่มาปฏิบัติหน้าที่ส่วนใหญ่มาจากสภ.ต่างๆในจ.นครนายกเพื่อมาถวายงานครั้งสุดท้ายให้แก่ในหลวงรัชกาลที่9ของประชาชนทุกคน โดยวันที่ 26 ตุลาคม เวลาประมาณ 14.30 น.เป็นเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดคุมแผงบริเวณพระเมรุมาศจำลอง ลานพระราชวังดุสิต(ลานพระบรมรูปทรงม้า)พร้อมเพื่อนตำรวจอีกหลายนาย เมื่อเข้าจุดได้เพียง20นาที ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลากว่า1ชั่วโมง แต่ประชาชนยังคงปักหลักรอกันอย่างไม่ท้อถอย เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ
“สำหรับผมการถวายงานครั้งนี้ จัดเป็นการถวายงานครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ถือเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดขอตำรวจไทย ครั้นเมื่อทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรู้สึกเสียใจมากที่ยังไม่มีโอกาสได้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้พระองค์ท่าน เพราะยังศึกษาอยู่ในศูนย์ฝึก ครั้งนี้จึงเป็นการถวายงานครั้งสุดท้าย ขอทำให้เต็มที่สุดกำลังความสามารถที่จะทำได้เพื่อตอบแทนพระองค์ท่าน และจะจดจำภาพความประทับใจดังกล่าวไว้ว่าไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือประชาชนทุกคนต่างเดินทางมาถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นหนึ่งใจเดียวกัน”ส.ต.ต.พีรวิชญ์กล่าว
ขณะที่ ส.ต.ต.วรากรณ์ คำตั๋น ผบ.หมู่ จร. สน.ดุสิต เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ประจำจุดกองทัพภาคที่ 1 ตลอดช่วงเวลาดังกล่าวมีประชาชนเดินทางมาไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ทุกคนต่างมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ โดยมีจิตอาสาจำนวนมากเดินแจกน้ำและขนมให้แก่ประชาชนที่มาร่วมถวายดอกไม้จันทน์ กระทั่งเวลาประมาณ15.00น. สายฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนักและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ตนได้เตรียมเสื้อกันฝนมาแต่เห็นเด็กหญิงประมาณ 5 ขวบ เดินทางมากับผู้ปกครองไม่มีร่มมีเพียงพลาสติกรองนั่งบังฝน จึงนำเสื้อกันฝนให้เด็กไป ก่อนจะกลับมาประจำจุด
“ไม่รู้สึกว่าฝนจะทำอะไรประชาชนได้เลย เพราะประชาชนยังคงปักหลักรออยู่ อย่างไรก็ตามมีความภูมิใจและมีความปลื้มปีติอย่างมากที่ได้ถวายงานให้แก่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับผมในอาชีพข้าราชการตำรวจ การถวายงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพราะเพิ่งรับราชการตำรวจได้ไม่นาน อีกทั้งในช่วงเวลาที่ทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสวรรคตนั้น รู้สึกตกใจมากและเสียใจมากที่ยังไม่มีโอกาสได้รับใช้พระองค์ท่าน กระทั่งศึกษาจบและได้รับราชการที่สน.ดุสิตครั้งนี้ จึงมีโอกาสรับใช้และตอบแทนท่านอย่างที่ตั้งใจไว้ ด้วยการถวายงานอันยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายในอาชีพข้าราชการตำรวจอย่างผม”ส.ต.ต.วรากรณ์เผย
