2หนุ่มเมืองคอนตีซี้เจ้าของร้านอาหารฮ่องกงทำร้ายแล้วชิงทรัพย์

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ สน.บุคคโล พ.ต.อ.จิณวัตร ก้องทองดี ผกก.สน.บุคคโล พร้อม พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ รอง ผกก.สส.สน.บุคคโล และ พ.ต.ท.มหพล มีเสน สว.สส.สน.บุคคโล ร่วมกันจับกุม นายไชยยันต์ โชติกะ อายุ 37 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช และ นายสุวรรณ อ๋องสุทธิ อายุ 41 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี วันที่ 13 มีนาคม ข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย พร้อมเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุคนละ 1 ชุด โดยจับกุมนายไชยยันต์ ได้ในห้องพักซอยสุขุมวิท 22 ก่อนขยายผลไปจับกุมนายสุวรรณ ได้ที่ห้องพักซอยเจริญนคร 28

พ.ต.อ.จิณวัตรกล่าวว่า เหตุเกิดเช้ามืดวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา นายภานุพงศ์ วรานนท์ อายุ 50 ปี ได้แจ้งความว่า ถูกคนร้ายชาย 2 ราย ตีสนิทขณะกินดื่มในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาท่าพระ ก่อนจะพากันไปเปิดห้องพักที่นันทวัลย์อพาร์ตเม้นต์ ถนนรัชดาท่าพระ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม.จากนั้นทั้ง 2 ราย ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายก่อนชิงทรัพย์เป็นสร้อยทองคำ 99.99 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนัก 2 บาท ซึ่งซื้อจากประเทศฮ่องกง พระนางพญาเลี่ยมทอง 1 องค์ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 147,000 บาท หลบหนีไป เมื่อฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยจากกล้องวงจรปิดของทางอพาร์ตเมนต์จับภาพไว้ได้ชัดเจน จึงตามไปจับกุม

จากการสอบสวน นายสุวรรณผู้ต้องหาให้การว่า เป็นไกด์เถื่อนหากินในซอยพัฒน์พงศ์ วันเกิดเหตุชักชวนนายไชยยันต์ เพื่อนสนิทไปนั่งกินดื่มที่ร้านเหล้าย่านถนนรัชดาท่าพระ พบผู้เสียหายลำพังเลยชวนกันไปดื่มกินต่อที่ร้านหมูจุ่มไม่ไกลกัน พอเมาได้ที่ก็ชักชวนกันไปเปิดห้องเช่ากับผู้เสียหายโดยซื้อเบียร์ที่เคาน์เตอร์ไปนั่งดื่มกันต่อในห้อง 2 ขวด จากนั้นตนและนายไชยยันต์ เริ่มเมามากแล้ว แต่กลับถูกผู้เสียหายไล่กลับ ทำให้เกิดบันดาลโทสะลงมือตบผู้เสียหายไป 2 ครั้ง จากนั้นดึงสร้อยคอทองคำและหยิบโทรศัพท์มือถือติดมือพากันหลบหนีออกมาด้วย โดยสร้อยทองนั้นตนนำไปขายที่ร้านรับซื้อเศษทองย่านวงเวียนใหญ่ ได้เงินมา 16,000 บาท ส่วนโทรศัพท์มือถือขายให้โชเฟอร์สามล้อพรรคพวกไป 1,000 บาท แบ่งให้นายไชยยันต์ จำนวน 7,000 บาท เพื่อใช้จ่ายประจำวันไม่คิดว่าจะถูกตำรวจติดตามไปจับกุมตัวได้ถึงในห้องพัก

คอน2
ต่อมา นายภานุพงศ์ ผู้เสียหายได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทำให้ถึงกับกลั้นอารมณ์แค้นไว้ไม่อยู่พยายามปรี่เข้าไปชก จนตำรวจต้องกันตัวไว้จ้าละหวั่น โดยเจ้าตัวกล่าวว่า เป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่ที่ฮ่องกง จะมาประเทศไทยเยี่ยมญาติพี่น้องปีละหน โชคดีที่ทั้งคู่ไม่รื้อค้นกระเป๋าสะพายที่ตนซ่อนไว้ในลิ้นชัก เนื่องจากในกระเป๋านั้นตนนำทองรูปพรรณจากประเทศฮ่องกงติดตัวมาด้วยน้ำหนักเกือบ 40 บาท

Advertisement

ด้าน พ.ต.อ.ปิโยรส กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของ นายสุวรรณ พบเคยถูกตำรวจ สน.ลุมพินี จับกุมคดีลักทรัพย์เมื่อปี พ.ศ.2540 ติดคุกอยู่นาน 6 ปี ก็ออกมาเป็นไกด์เถื่อน นอกจากนี้เจ้าตัวยังชอบคลุกคลีอยู่กับพรรคพวกตามสนามมวย ส่วน นายไชยยันต์ มีอาชีพลูกจ้างขายเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ เชื่อว่าทั้ง 2 ราย น่าจะเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อนหากผู้เสียหายรายใดสงสัยเคยถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาดูตัวได้ ที่ สน.บุคคโล ในวันและเวลาราชการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image