เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน ร.ต.ท.พลกฤษณ์ เกิดชัย รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วงเทเลอร์ชนเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ และมีผู้เสียชีวิตติดภายในเป็นคนขับรถ เหตุเกิดบนถนนพระราม 2 ช่องคู่ขนาน ขาเข้ากรุงเทพฯ หลักกิโลเมตรที่ 31+900 ห่างจากทางเข้านิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครประมาณ 700 เมตร ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
อีกทั้งยังได้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสมุทรสาครให้มาดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า เนื่องจากเสาไฟฟ้าหักโค่นและล้มทับด้านหน้ารถพ่วงเทรลเลอร์กับผู้เสียชีวิตเอาไว้ ซึ่งต้องดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถพ่วงเทรลเลอร์ 18 ล้อ ยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน(ตัวหน้า) 70-9349 ระยอง หมายเลขทะเบียน (ตัวพ่วง) 70 – 1847 ระยอง ซึ่งใช้ในการบรรทุกแผ่นเหล็กม้วนน้ำหนัก 14 ตัน 2 ม้วน สภาพด้านหน้ารถชนอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทางจนหักโค่นลงมาทับพังยับเยิน ส่วนคนขับเสียชีวิตคาที่ตรงเบาะนั่ง ทราบชื่อคือ นายสุชาติ ประจวบสุข อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 ม.7 ต.หนองจิก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ใกล้ที่เกิดเหตุพบเหล็กม้วน 1 ม้วน หล่นไปกระแทกด้านท้ายรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้ออีซูซุสีฟ้าขาวหมายเลขทะเบียน 75-1098 กทม. เสียหายเล็กน้อย ส่วนบนถนนด้านท้ายของรถพ่วงเทรลเลอร์ ยังพบทุ่นเรือขนาดใหญ่น้ำหนัก 1.4 ตัน ตกอยู่ 1 ทุ่น และตรงริมถนนในช่องทางด่วนขนาดเท่ากันอีก 1 ทุ่น นอกจากนี้ยังมีรถบรรทุกหกล้อยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 88-2765 นครราชสีมา ซึ่งเป็นรถที่บรรทุกทุ่นเรือทั้ง 2 ลูกมานั้น จอดอยู่ริมทางเพื่อรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่ขับรถพ่วงเทเลอร์คันที่นำหน้าไปก่อน ก็เล่าว่า ตนเองและผู้เสียชีวิตได้บรรทุกแผ่นเหล็กม้วนน้ำหนักม้วนละ 14 ตัน คันละ 2 ม้วน มาจากจังหวัดระยอง เพื่อจะไปส่งที่โรงงานแห่งหนึ่งในตำบลท่าทราย ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุมากนัก พอมาถึงที่เกิดตุทิ้งระยะกันนิดเดียว ขณะที่ตนขับอยู่ด้านหน้าก็ได้ยินเสียงรถพุ่งชนกับวัตถุบางชนิดอย่างแรง จึงมองไปดูทางกระจกหลัง ก็เห็นรถของเพื่อนตนชนกับเสาไฟฟ้า จึงได้จอดรถแล้วลงมาดูก็พบว่าเพื่อนเสียชีวิตไปแล้ว โดยเบื้องต้นก็คาดว่า นอกจากแรงอัดกับเสาไฟฟ้าแล้ว ยังถูกแรงอัดทับจากเหล็กม้วนที่บรรทุกมาด้านหลังกลิ้งมากระแทกซ้ำอีกด้วย
จากการสอบถามนายสมศักดิ์ พลดงนอก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 ม.4 ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกหกล้อบรรทุกทุ่นเรือ บอกว่า ตนได้บรรทุกทุ่นเรือน้ำหนักลูกละ 1.4 ตัน จำนวน 2 ลูก มาจากจังหวัดภูเก็ต เพื่อไปส่งที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี แต่ปรากฏว่ามาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุรถได้ตกร่องถนนทำให้สเตย์ตัวรัดหลุด จึงทำให้ลูกยางทุ่นเรือกระเด็นตกลงจากรถ แล้วลูกทุ่นเรือ ลูกหนึ่ง ก็กระเด็นข้ามไปยังฝั่งช่องทางคู่ขนาน เป็นเหตุให้รถพ่วงเทเลอร์ที่ขับตรงมาจากทางคู่ขนานหักหลบลูกทุ่นเรืออย่างกะทันหัน ประกอบกับข้างทางมีรถบรรทุกจอดอยู่ 1 คัน รถพ่วงเทเลอร์จึงตัดสินใจหักขึ้นฟุตบาททำให้ไปชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทางเสียชีวิตคาที่
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้นำตัวนายสมศักดิ์ คนขับรถบรรทุกหกล้อไปสอบสวนเพิ่มเติมก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
