เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ว่า ขณะนี้ผลการปราบปรามเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งแล้ว โดยค่อยๆ แก้ ขณะนี้ทุกกองบัญชาการได้ดำเนินการกับตำรวจที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องใน 16 ฐานความผิดออกจากพื้นที่เพื่อมาช่วยราชการที่กองบัญชาการแล้ว เพื่อความสบายใจคลายความกังวลหรือหวาดกลัวของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งตำรวจที่ถูกออกคำสั่งในส่วนนี้มีประมาณเกือบ 100 นาย โดยใครที่มีชื่อจะถูกเรียกให้ออกนอกพื้นที่มาช่วยราชการหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะดูแลตำรวจกลุ่มนี้อย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ต้องควบคุมความประพฤติ ดูแลไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว ให้แต่ละกองบัญชาการนำโดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นคนรับผิดชอบเรื่องการปราบปรามมือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพลในส่วนนี้ หากดูแล้วตำรวจกลุ่มนี้มีความประพฤติดีไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว ก็ต้องให้โอกาส โดยตำรวจกลุ่มนี้มีความผิดใน 16 ฐานความผิดแตกต่างกันไป อาทิ การเก็บผลประโยชน์
เมื่อถามว่าตามกระบวนการนอกจากโยกย้ายแล้วต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ผบ.ตร.กล่าวว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เพราะหากย้ายมาเฉยๆ เมื่อกลับไปก็เป็นเหมือนเดิมอีก ใครที่เลิกพฤติกรรมไม่ดีแล้ว เราก็ต้องให้ความเป็นธรรม
เมื่อถามต่อว่ามีรายชื่อตำรวจในส่วนกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ เพราะส่วนใหญ่อยู่ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ส่วนกลางไม่รู้จะไปอิทธิพลกับใคร เพราะพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการคงไม่เชื่อ ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดที่อยู่รู้ว่าตำรวจที่มีรายชื่อได้ออกไปจากพื้นที่แล้ว
เมื่อถามว่าหลังจากที่ลงพื้นที่ต่างๆ พบการเคลื่อนไหวอยู่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า น่าจะมีความเคลื่อนไหว เพราะว่าในส่วนของประชาชนทางแม่ทัพภาคเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้การปรับย้ายตำรวจกว่า 100 นายในพื้นที่นั้น หากให้ตนเลือกระหว่างขาดแคลนกำลังพล เพราะปรับย้ายกับความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน หลายคนคงเลือกถูกว่าจะเลือกฝั่งไหน หากทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ควรออกมาเสียดีกว่า ตนรักลูกน้อง แต่ตนก็รักพี่น้องประชาชนมากกว่า ใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด
