เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการการป้องกันและปรามปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยในฐานะที่ปรึกษากลุ่มชาวริมคลอง15แห่ง เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เพื่อแจ้งความหน่วยงานภาครัฐ หลังจากมีเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่ม บังคับให้ชาวบ้านเป็นหนี้ในโครงการบ้านมั่นคง ทั้งยังพบข้อผิดพลาดทางกฎหมายของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับโครงการบ้านมั่นคงหลายประการ โดยเฉพาะการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.ที่ 9/2560 และ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พบเห็นความผิดปกติของการปฏิบัติตามคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่อยู่อาศัย ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) ที่เดินหน้าทำโครงการก่อสร้างบ้านมั่นคงถึง 15 แห่งโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ขัดคำสั่งคสช.ที่9/2560 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้รับยกเว้นการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามมาตรา 48 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ปี 2535 แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างน้อยต้องมีมาตรการเคลื่อนย้ายชุมชน และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่สผ.ให้ความเห็นชอบโดยให้ พอช.เสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อ สผ. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเริ่มก่อสร้างโครงการบ้านมั่นคง
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นทาง พอช. มีการทำแผนและมาตรการนี้ส่งไปยัง สผ.เพื่อให้พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะปลูกสร้างบ้านมั่นคง แต่ สผ.ไม่เห็นชอบเนื่องจากไม่เป็นไปตามระเบียบของนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความเห็นของประชาชนปี 2546 โดยให้มีเวทีรับฟังความคิดเห็นของชุมชนก่อน อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พอช.เดินหน้าก่อสร้างโครงการบ้านมั่นคงไปแล้วถึง 15 ชุมชน การกระทำเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ขัดต่อคำสั่งของ คสช.ฉบับที่ 9 จึงนำเรื่องมาร้องทุกข์ ปปป. ไปตรวจสอบและดำเนินคดีกับ ผอ.พอช. และคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
พล.ต.ต.กมล กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้และให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน นายศรีสุวรรณ และตัวแทนที่มาร้องทุกข์ในวันนี้อีก 5 คน โดยพนักงานสอบสวนจะสอบสวนเบื้องต้นและตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับทาง ผอ.พอช.และสมาชิกต่อไป
