บุกจับกก.บริษัทนำเที่ยว เป็นต่างด้าว’สวมบัตรปชช.-อุปโลกน์ทะเบียนบ้าน’โยงทัวร์ศูนย์เหรียญ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รอง ผบช.ภ.6 และพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. พร้อมตำรวจท่องเที่ยว กรมการปกครอง ตำรวจภูธรภาค6 และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกันจับกุม นางกานดา เฉิน อายุ 44 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทอาร์ เอ็กซ์ ทราเวล แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ได้ที่หน้าอาคารคันต้ากรุ๊ป เลขที่ 68 ซอยนวลจันทร์ แขวงและเขตบึงกุ่ม และ น.ส.สุณี พยัพเดช อายุ 40 ปี ได้ที่ลานจอดรถภายในอาคารชุดจอนนี่ ทาวเวอร์ เลขที่ 262 ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตห้วยขวาง

พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นการจับกุมบุคคลต่างด้าวสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทยและมาประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยนางกานดา จัดทำเอกสารเพื่อขอเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้านที่อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2532 โดยทุจริต ในชื่อ “ด.ญ.กานดา พยัพเดช” และมาทำบัตรประชาชนครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2532 จากนั้นได้สวมบัตรเป็นคนไทยมาตลอด 28 ปี กระทั่งมีการเปลี่ยนชื่อเป็น “นางกานดา เฉิน” และมีการขอทำบัตรใหม่หลายท้องที่ กระทั่งวันที่ 19 มกราคม 2553 นางกานดามาทำบัตรที่สำนักงานเขตดุสิต ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานเพื่อขอหมายจับในข้อหา ยื่นคำขอมีหลักฐานอันเป็นเท็จหรือกระทำการเพื่อให้ตนเองมีรายการในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทางทะเบียนราษฎรโดยมิชอบ และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ มีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน นายสมใจ พยัพเดช ผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ผลปรากฏว่านายสมใจระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และเมื่อปี 2532 นางกานดา เพิ่มชื่อลงในทะเบียนบ้านเลขที่ 92 หมู่ 5 ต.ไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง ขณะนั้นทางผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่าไม่มีบ้านเลขที่ดังกล่าวอยู่ในระบบทะเบียน เมื่อสอบถามนางกานดาอ้างว่าเป็นคนไทย แต่พ่อแม่เสียชีวิตทั้งหมด ส่วนในปัจจุบัน นางกานดามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญอีกด้วย

Advertisement

พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ น.ส.สุณี กระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน และเป็นพี่น้องกับนางกานดา โดยมีการสวมเอกสารครั้งแรกเมื่อปี 2532 ที่จ.พิจิตร จากนั้นในปี 2553 จะมาทำบัตรใหม่ที่ จ.นนทบุรี และล่าสุดทำบัตรใหม่ที่ที่ว่าการอำเภอคลองหอยโข่ง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานก่อนออกหมายจับในข้อหายื่นคำขอมีหลักฐานอันเป็นเท็จหรือกระทำการเพื่อให้ตนเองมีรายการในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทางทะเบียนราษฎรโดยมิชอบ และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ มีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนคุมตัวส่ง สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นความมั่นคงของชาติ ที่บุคคลต่างด้าวเข้ามาสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทยและยังทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้สำคัญของประเทศ อย่างไรก็ตามทางตำรวจตรวจพบว่ามีคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชนไทยอยู่ 50,000 คน กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ ยากต่อการตรวจสอบ แต่หากพบเบาะแสจะดำเนินการจับกุมได้ทันที อย่างไรก็ตามขณะนี้มีคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชนแล้ว 40 ราย ส่วนใหญ่มาเพื่อประกอบธุรกิจนำเที่ยว และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ร่วมกระทำความผิดด้วย จะดำเนินการอย่างแน่นอน หากประชาชนมีเบาะแสเรื่องดังกล่าว หรือเรื่องอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวสามารถติดต่อผ่านสายด่วน 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image