บุกวัดดังจับ’เจ้าคณะอำเภอชนแดน’คดีอนาจารเด็ก เอี่ยวคดีเงินทอนวัด

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรทผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รองผบก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป. จับกุม นายสมเกียรติ ขันทอง หรือ พระครูกิตติพัชรคุณ อายุ53ปี เจ้าอาวาสวัดลาดแค และเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยจับกุมได้ในวัดลาดแค

พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านใน ต.ลาดแค อ.ชนแดน ว่าพระครูกิตติพัชรคุณ มีพฤติกรรมชู้สาวกับ ส.ต.หญิง(สงวนชื่อและนามสกุล) ประจำอยู่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ ส.ต.หญิง คนดังกล่าวมีฐานะยากจน พ่อแม่จึงนำมาฝากให้พระครูกิตติพัชรคุณ ดูแล พระครูฯได้ส่งเสียค่าเล่าเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สอดรับกับข้อมูลของชาวบ้านพบว่าเคยพบเห็นส.ต.หญิงคนดังกล่าวเข้าไปหาพระครูฯที่กุฏิในเวลากลางคืน จนกระทั่งเมื่อสำเร็จการศึกษาทางพระครูฯได้ฝากให้เข้ารับราชการทหาร เนื่องจากมีความสนิทสนมกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพ ต่อมาหลังจากส.ต.หญิงดังกล่าวได้ไปประจำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง และพบรักกับแฟนหนุ่ม จนทางพระครูฯทราบเรื่อง จึงเดินทางไปหาส.ต.หญิง พร้อมกับพวกอีก 7 คน ก่อนจะเกิดการชกต่อยทะเลาะวิวาทกับแฟนหนุ่มของส.ต.หญิง ทั้งนี้ไม่นานนี้ทางส.ต.หญิง ได้หมั้นกับหนุ่มใหญ่วัย 51 ปี เนื่องจากตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน โดยมีการจัดงานห่างจากวัดลาดแคเพียง 300 เมตร อีกทั้งยังพบว่ามีหญิงสาวหลายสิบคนเคยถูกพระครูลวนลาม รวมทั้งมีพฤติกรรมใช้เงินเพื่อล่อลวงให้หญิงสาวมาร่วมกระทำผิดเชิงชู้สาว

Advertisement

พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เป็นที่รู้กันดีว่าพระครูฯมักจะอ้างตัวว่ารู้จักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง สามารถฝากเข้าทำงานราชการได้ และบริเวณโดยรอบกุฏิของพระครูฯมักจะมีบอดี้การ์ดแต่งชุดลายพรางคล้ายทหารพกอาวุธปืนคอยคุ้มกันตลอดเวลา อีกทั้งมีพฤติกรรมไม่ออกมาทำกิจของสงฆ์ โดยเก็บตัวอยู่ในกุฏิ รวมทั้งแอบออกจากวัดในเวลากลางคืน คล้ายผู้มีอิทธิพล จากการสอบปากคำเบื้องต้นพระครูกิตติพัชรคุณให้การปฏิเสธ โดยกล่าวสั้นๆว่าถูกกลั่นแกล้ง เรื่องดังกล่าวเกิดมานานแล้ว ส่วนที่มีเด็กผู้หญิงคอยเข้ามาภายในกุฏินั้น ให้เข้ามาทำความสะอาด และทุกครั้งที่เข้ามาก็ไม่ได้เข้ามาเพียงลำพังคนเดีย วแต่เข้ามาพร้อมกันมาหลายคน ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝง เบื้องต้นในวันนี้พนักงานสอบสวนกก.4บก.ป.จะสอบสวนพระครูฯอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยในวันที่30พฤศจิกายน จะนำตัวไปที่ วัดลาดแค เพื่อให้เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ทำการสึก หากพระครูฯไม่ยอมสึก จะนำตัวกลับมาส่งศาลอาญาเพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. นำกำลังเดินทางไปที่วัดลาดแค หลังทราบว่าพระครูฯ เพิ่งจะเดินทางกลับมาจากประเทศอินเดีย เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับพระครูฯในคดีทุจริตเงินทอนวัด แต่ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัวพระครูฯอยู่ที่วัด ก่อนจะมาถูกจับกุมในครั้งนี้ โดยคดีทุจริตที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจปปป.ตรวจสอบพบการทุจริตเกิดขึ้นที่วัดหลายแห่ง รอบแรกเป็นการทุจริตงบอุดหนุนบูรณะปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด 12 วัด ตั้งแต่ปี 2555-2559 ความเสียหายประมาณ 60 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 10 ราย ต่อมา บก.ปปป.ตรวจสอบรอบที่2 พบเป็นการทุจริตงบอุดหนุน3ประเภท คือ 1.อุดหนุนบูรณะปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด 2.อุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ 3.อุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา-แผนกธรรม-แผนกบาลี จำนวน 23 วัด ตั้งแต่ปี 2555-2560 ความเสียหายประมาณ 140 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 19 ราย

ต่อมาเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. ได้สั่งการให้พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รองผกก.(สอบสวน) กก.4บก.ปปป. และทีมพนักงานสอบสวนบก.ปปป. เดินทางเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาพระครูกิตติพัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ ขันทอง หนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งมีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับขบวนการเงินทอนวัด หลังถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวได้ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนบก.ปปป. ได้แจ้งข้อหาในความผิดฟอกเงิน ขั้นตอนจากนี้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะทำการสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนขออำนาจศาลอาญารัชดา ออกหมายจับในฐานความผิดฟอกเงิน พร้อมอายัดตัวต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image