สกัดหญิงพม่ารับโอนเงินยาเสพติด’เอเยนต์ไทย-รง.พม่า’บัญชีหมุนเวียนหมื่นล้านต่อปี แฉเปิด’จิวเวลรี-โรงแรม’ฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รรท รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. หน่วยปฏิบัติการ พิเศษสยบไพรี เปิดปฏิบัติการไชยะสยบไพรี 61/1 ยุทธการ ทำลายต้นไม้พิษ เสือสิ้นลาย โดยจับกุมนางมินท์ เตง เอ อายุ 41 ปี สัญชาติพม่า ผู้ต้องหาให้การสนันสนุนหรือ ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด โดยเปิดบัญชีรับเงินจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หลังสืบทราบว่านางมินท์ เตง เอ หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม เทียน เอที่เปิดบัญชีรับโอนเงินจากผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด จะเดินทางเข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินในประเทศไทย

พล.ต.ต.ทนัย เปิดเผยว่า ห้วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดที่นำยาเสพติดมาขายในไทย แล้วนำเงินกลับออกจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยการโอนเงินผ่านกลุ่มต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ เอกอ้วน หรือนายจรัญ คำสด หรือนายจิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ ที่ใช้กลุ่มเทียนเอ เปิดบัญชีรับโอนเงินจากกลุ่มนักค้ายาเสพติด แล้วโอนกลับไปยังรัฐฉานในประเทศเพื่อนบ้านเป็นค่ายาเสพติด จากข้อมูลการสืบสวนนานกว่า5ปี พบว่าผู้ต้องหารายนี้เชื่อมโยงกับนางฟอง ปทุมมณี หรือเจ๊ฟอง ผู้ต้องหาตามหมายจับที่มีค่าหัว 3 แสนบาท หนีกบดานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทำหน้าที่ควบคุมการเงินให้กับขบวนการค้ายาเสพติด และฟอกเงินผ่านบัญชีธนาคารต่างๆ มีเงินหมุนเวียนกว่า 1.2หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังพบข้อมูลสำคัญ มีคนไทยอีกหลายคนรับหน้าที่ทำธุรกรรมทางการเงินให้กับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ โดยทำธุรกิจร้านโทรศัพท์ ร้านเหล้า บุหรี่ หนีภาษี ในฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า และร้านจิวเวลรี ในฝั่งประเทศไทยเพื่อบังหน้า ทั้งนี้ภายหลังจับกุมตัวนางมินท์ เตง เอ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น พื้นที่เป้าหมายในอ.แม่สาย จ.เชียงราย อีก 6 แห่ง ด้วย

พล.ต.ต.ทนัย กล่าวต่อว่า เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. สกัดรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนป้ายสีฟ้า 36-0231 กรุงเทพมหานคร บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ขาออกห่างจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพมหานคร (ป.ป.ส.กทม.) ประมาณ 300 เมตร จากการตรวจสอบพบนางมินม์ เตง เอ และสามี อยู่ภายในรถ โดยนางมินท์ เตง เอ อ้างว่า เดินทางมาประเทศไทยเพื่อรักษาอาการป่วย ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราทั้งฝั่งไทยและพม่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีต่อวันเพียง 1-2 ล้านบาทเท่านั้น ยืนยันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน และไม่ทราบว่าถูกจับเรื่องอะไร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ห้องประชุมภักดีภูมิ ชั้น 2 บช.ปส. ถนนวิภาวดี

ด้านพล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนเงินจากเครือข่ายยาเสพติดทุกรายใหญ่ในประเทศไทย ก่อนโอนไปยังโรงงานผลิตยาในประเทศพม่า โดยพบว่ามีพฤติการณ์รับโอนเงินให้กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดมานานกว่า 10 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารต่อปีมากกว่า1หมื่นล้านบาท โดยจะนำเงินดังกล่าวไปฟอกด้วยการเปิดร้านจิวเวลรีอัญมณี ร้านทอง และโรงแรมทั้งในฝั่งไทยและพม่าบังหน้า ทั้งนี้แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่ไม่มีผลต่อรูปคดี นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย ที่ออกหมายจับแล้ว จะเร่งติดตามตัวดำเนินคดีต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image