จากกรณีในโลกสังคมออนไลน์มีการแชร์คลิปภาพวีดีโอซึ่งเป็นเหตุการณ์ของชายหนุ่มขึ้นค่อมรถบิ๊กไบค์ไม่สวมหมวกกันน๊อคอยู่ในอาการมึนเมา พร้อมทั้งบิดคันเร่งเบิ้ลเครื่องยนต์เป็นระยะๆ ก่อนชูนิ้วกลาง และด่าท่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ภายในป้อมจราจรบริเวณแยกศาลาแดง (ทุ่งมหาเมฆ) โดยมีหญิงสาวซ้อนท้ายคอยห้ามปรามถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จากนั้นชายรายดังกล่าวได้เดินเข้ามาด่าทอเจ้าหน้าที่อีกครั้งภายในป้อมจราจร พร้อมทั้งโทรศัพท์หาคนสนิทเพื่อขอความช่วยเหลือ และยอมรับว่าตนเองเพิ่งดื่มสุรามาจนเมามาย โดยให้ของลับและพูดจาหยาบคายกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีความยาวประมาณ 4 นาที จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมไปต่างๆนานา
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ด.ต.ปวิช บุญมาสูงทรง ผบ.หมู่ (จร.) สน.ทุ่งมหาเมฆ กำลังปฎิบัติหน้าที่ควบคุมสัญญาณไฟจราจรอยู่ภายในป้อมบริเวณสี่แยกศาลาแดง ถนนพระรามที่ 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. กระทั่งได้เปิดสัญญาณไฟเขียวที่ถนนพระรามที่ 4 โดยสามารถมุ่งหน้าไปราชดำริ และหัวลำโพง แต่กลับพบว่ามีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นแซด 800 ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยมีคนขี่เป็นผู้ชายทราบชื่อต่อมาคือนายเมฆินทร์ อายุวัฒนมงคล อายุ 34 ปี ชาว อ.ทุ่งหัวช้าง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน และมีหญิงสาวเป็นผู้ซ้อนท้าย มาจอดอยู่ที่ข้างป้อมจราจรก่อนทำการท้าทายและแสดงพฤติกรรมที่ปรากฏตามในคลิปวีดีโอดังกล่าว
พ.ต.อ.อัครวุฒ กล่าวต่อว่า ซึ่งระหว่างนั้นทางด้าน ด.ต.ปวิช จึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวีดีโอเพื่อเป็นหลักฐานแต่ไม่ได้ลงมาจับกุมแม้แต่อย่างใด เนื่องจากกำลังปฎิบัติหน้าที่ควบคุมสัญญาณไฟจราจรเพียงลำพัง อีกทั้งยังเป็นเวลาเร่งด่วนที่ต้องเร่งระบายรถให้กับพี่น้องประชาชน จึงตัดสินใจประสานให้ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจมารับตัวส่งพนักงานสอบสวนพร้อมทั้งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบว่าสูงถึง 213 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ซึ่งเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมาสุรา ก่อนจะควบคุมตัวไว้ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา จากนั้นทางญาติได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 1 หมื่นบาท เพื่อขอประกันตัว โดยระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าหนักงานเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนจะนำตัวฝากขังต่อศาลแขวงพระนครใต้ภายในวันที่ 1 ธ.ค. ที่จะถึงนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายนายเมฆินทร์ เคยเป็นนักกีฬาเพาะกาย และแสดงหนังวาบหวิว
