จากกรณี นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านการสื่อสารกับสังคม ในคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) แถลงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเห็นชอบโครงสร้างพนักงานสอบสวนโดยให้ยึดหลักความชำนาญ มีอิสระ ก้าวหน้าในสายอาชีพโดยยังสังกัดอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และมีโอกาสเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ ที่มักโอนย้ายไปสายงานอื่น รวมทั้งหากอัยการเห็นแย้งสำนวนความเห็นของพนักงานสอบสวน ให้ผู้บังคับการ (ผบก.) เป็นผู้ชี้ขาด จากเดิมมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ชี้ขาดนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ในฐานะเลขาธิการสมาคมพนักงานสอบสวน กล่าวว่า เห็นด้วยกับกรณีที่พนักงานสอบสวนยังสังกัดอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เนื่องจากระบบของ ตร. มีการแบ่งเวรพร้อมรับคดีตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนกรณีเสนอให้มีโอกาสก้าวหน้าจนถึงตำแหน่ง ผบ.ตร.นั้นก็เห็นด้วย เนื่องจากขณะนี้พนักงานสอบสวนจริงจะมีแค่ยศ พ.ต.ท.เท่านั้น แต่ควรจะมีการวางระบบให้ชัดเจน ว่ากรณีเลื่อนตำแหน่ง จะเป็นแบบประเมินสอบเพื่อเลื่อนขึ้น หรือใช้ระบบอาวุโสและความรู้ความสามารถ ทั้งนี้ เห็นด้วยกับการใช้ระบบประเมินสอบ เนื่องจากมีความชัดเจน และสามารถให้ผู้ที่จะเลื่อนขึ้นได้เตรียมตัวด้วย
พ.ต.อ.มานะกล่าวต่อว่า ในเรื่องของความเห็นสั่งคดี หากพนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้องคดี แต่อัยการเห็นแย้งสั่งไม่ฟ้อง ให้ส่ง ผบก.ชี้ขาด จากเดิมให้ ผบ.ตร.ชี้ขาดนั้น ตรงนี้เห็นด้วย เพื่อเป็นการลดขั้นตอน เป็นการกระจายอำนาจ ตลอดจน ผบก.จะทราบในรายละเอียดคดีแต่ละโรงพัก เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับโรงพักในพื้นที่
