| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | จตุพร พ่วงทอง |
| เผยแพร่ |
เริ่มเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประเดิมนัดแรกประชุมผู้บริหารยุติธรรม ช่วงบ่าย “บิ๊กจิน” พล.อ.อ.ประจิน ไม่รอช้า รับฟังพรีเซ็นต์ภารกิจ แนวทางทำงานของแต่ละกรมประมาณ 2 ชั่วโมง กำหนดแนวทางการทำงานออกมาแถลงข่าวลำดับจัดเรียงอย่างเป็นระบบ
ภารกิจสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด พล.อ.อ. ประจิน กำหนดเป็นแนวทางหลักในการกำหนดนโยบายของกระทรวงยุติธรรม คือ เทิดทูนและธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อพิทักษ์ปกป้อง คุ้มครอง และปราบปราม ผู้กระทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ควบคู่ไปกับการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนมีความตระหนักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งน้อมนำศาสตร์พระราชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการทรงงาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาใช้กับการพัฒนากระบวนการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดให้เกิดผลสำเร็จ และสามารถนำไปขยายผลในการปฏิบัติงานอื่นๆ
ลำดับต่อมา ยังคงเน้นเรื่องการพัฒนากระบวนการยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางผ่านทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดและศูนย์ยุติธรรมชุมชน โดยครั้งนี้ พล.อ.อ.ประจินเน้นย้ำเรื่องการเข้าถึงประชาชน กำหนดให้มีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากที่สุด ใช้กลไกเดิมที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ใช้ช่องทางการสื่อสารโดยอาจให้มีระบบคอลเซ็นเตอร์ รับเรื่องร้องทุก 24 ชม. นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่อาจต้องมีรายการ โทรทัศน์สัก 1 รายการ เพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องราวต่างๆ ควบคุมไปกับการสร้างกระบวนการของยุติธรรมจังหวัดให้เข้มแข็ง หรืออาจลงไประดับอำเภอ ทั้งนี้เพื่อเป็นช่องทางที่จะนำปัญหาของชาวบ้าน มาแก้ไขในระบบและตอบสนองให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่แค่เพียงสื่อหลักเท่านั้น ยังรวมไปถึงการใช้สื่อรองหรือโซเซียลมีเดียต่างๆ
นอกจากนี้ พล.อ.อ.ประจินบอกว่า ต้องการเพิ่ม ประสิทธิของบุคลากรในการทำงาน จะไม่เข้าไปแก้ไขในส่วนของโครงสร้างแต่จะเน้นที่ตัวบุคลากร รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อการทำงานอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ งานของกระทรวงยุติธรรมเป็นงานสหวิทยา ไม่ใช่งานด้านเดียว ไม่ใช่กฎหมายอย่างเดียว ดังนั้นการพัฒนาบุคลากรต้องพัฒนาในระบบ สหวิทยา ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง ของระบบงานยุติธรรม ที่ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยต่างๆ การทำงานลักษณะนี้จะเป็นการทำงานร่วมกับหน่วยอื่นแบบบูรณาการ จัดให้มีการฝึกอบรม สัมมนา หรือ เวิร์กช็อป ลงพื้นที่ระบบฟังความเห็นประชาชน เพื่อนำความเห็นข้อเสนอมาพัฒนา
ส่วนวาระเร่งด่วน เช่น งานด้านยาเสพติดทั้งการป้องกันและการบำบัดฟื้นฟู รวมถึงการพัฒนาพฤตินิสัยของกลุ่มเข้าระบบการพัฒนานั้น พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การสร้างความปลอดภัยและความสงบสุขใน สังคม เพื่อแก้ไขการกระทำความผิดซ้ำ โดยพัฒนากระบวนการดูแลแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำในการวิเคราะห์ จำแนกกลุ่มผู้กระทำผิด นำเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลและการประเมินระดับการควบคุม และจัดทำแผนการแก้ไขฟื้นฟูที่เหมาะสมกับตัวบุคคล เพื่อส่งต่อมายังกลางน้ำที่เป็นการพัฒนากระบวนการแก้ไขฟื้นฟูด้วยเครื่องมือที่หลากหลายและเหมาะสมกับพฤติการณ์ของแต่ละบุคคล ไปจนถึงปลายน้ำโดยการพัฒนาระบบการติดตามช่วยเหลือผู้พ้นโทษให้มีอาชีพ มีรายได้ สามารถกลับไปดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข
“เรื่องการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดมอบหมายให้มีการจัดทำระบบจัดเก็บฐานข้อมูลว่ามีจำนวนเท่าไหร่ รอการบำบัด ระหว่างบำบัด และได้รับการบำบัดแล้ว เท่าไหร่ อย่างไร ทั้งนี้จะสอดคล้องกับฐานข้อมูลในเรื่องการติดตามผลเพื่อความเป็นระบบ จะได้ทราบว่าคนกลุ่มนี้ มีงานทำหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ยังให้มีการพัฒนาฝีมือทักษะ ผู้ต้องขังหรือผู้กระทำความผิด ที่ผ่านเข้ามาในระบบ ของหน่วยงานกระทรวงยุติธรรม และเมื่อพัฒนาต้องติดตามผลว่า สอดคล้องตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการหรือไม่ อย่างไร ได้งานทำจำนวนมากน้อยแค่ไหน ตัวเลขหรือข้อมูลเหล่านี้จะช่วยงานพัฒนาพฤตินิสัยได้ โดยจะใช้ระบบไอทีเป็นตัวช่วย หรือรูปแบบหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญจะเน้นเรื่องธรรมาภิบาลเป็นหลัก งานยุติธรรมไม่ได้หมายถึงนิติธรรมอย่างเดียว ต้องมีคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานต้องทำงานเชื่อมกับหน่วยอื่น ใครที่ทำหน่วยเดียว ต้องปรับใหม่ เน้นงาน บูรณาการเชื่อมโยงข้อมูล”
พล.อ.อ.ประจินยังระบุอีกว่า ส่วนยุทธศาสตร์ 6 ด้านของกระทรวงไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด โดยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด ควบคุมปัญหา และลดผลกระทบของปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีที่สำคัญ อาทิ ปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ
ภายใต้แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย และประสานงานกับประเทศที่เป็นจุดกำเนิดของสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับกลุ่มเสี่ยงที่อาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด
การอำนวยความยุติธรรมโดยการขับเคลื่อน วาระแห่งชาติ “สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” และการส่งเสริมให้นำแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติ ทั้งในมิติการป้องกัน คุ้มครอง พัฒนากฎหมายและพัฒนาเครือข่ายสิทธิ มนุษยชน การพัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย
การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านความมั่นคง บูรณาการหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม และเสริมสร้าง สังคมไทยให้เป็นสังคมเคารพกติกา (Culture of Lawfulness) โดยส่งเสริมและพัฒนากลไกของรัฐในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เพื่อจัดการความขัดแย้ง และการปลูกฝังสันติวัฒนธรรมตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับชาติ โดยมีภารกิจสำคัญเร่งด่วน คือ การสนับสนุนคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ภายใต้คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้าง
ความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ทุกอย่างเป็นเข็มทิศในการพัฒนาขับเคลื่อนกระทรวงยุติธรรม
พล.อ.อ.ประจินยัง ระบุถึง การติดตามคดีสำคัญที่อยู่ในความรับผิด ชอบของกระทรวงยุติธรรมว่า การติดตามคดีพระ ธัมมชโย คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น คดีการทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย คดีการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหาร รวมถึงการจัดการปัญหาการค้ามนุษย์ จะเร่งรัดติดตามคดีสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คือ ทุกวันอังคาร เวลา 15.00 น. และวันศุกร์ เวลา 07.30 น. เพื่อให้คดีเสร็จสิ้นตามกรอบกำหนดเวลา นอกจากนี้ในส่วนของการปฏิรูปกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ยืนยันว่าจำเป็นต้องมีหน่วยงานดังกล่าวอยู่ เพียงแต่ต้องปรับระบบ งานไม่ให้ซับซ้อนกับการทำงานของหน่วยงานอื่นให้เหมาะสม ขับเคลื่อนคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับจังหวัด (กพยจ.) โดยให้ยุติธรรมจังหวัดเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงการดำเนินงานจากส่วนกลางไปสู่ภูมิภาค ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ในระดับพื้นที่ ให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
นี่เป็นอีกจุดเริ่มต้นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชื่อ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง!!!
