ตั้งกก.สอบ’ตร.ดอนเมือง-ยานนาวา’ใช้คำพูดไม่สุภาพ หลังแม่น.ศ.สาว เหยื่อรุ่นพี่ข่มขืนร้องเรียน

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) น.ส.กาลเวลา หรือปอเปี๊ยะ เสาเรือน นักข่าวสถานีโทรทัศน์เช่องหนึ่ง พาน.ส.นก(นามสมมุติ) เหยื่อถูกคุกคามทางเพศ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. หลังรับร้องเรียนจากนางนี (นามสมมุติ) มารดาเหยื่อ ว่า บุตรสาวเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านบางเขน ถูกรุ่นพี่ในชมรมข่มขืน แต่พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ไม่รับแจ้งความตั้งแต่ครั้งแรก และใช้วาจากริยาไม่สุภาพ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยปล่อยให้คดีล่วงเลยจนหมดอายุความ และไม่แจ้งสิทธิ์แก่ผู้เสียหายทางคดีอาญา ทำให้เสียสิทธิ์ในการรับเงินเยียวยา

โดยนางนี เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อปลายปี 2558 แต่ทราบเรื่องเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ว่าลูกถูกรุ่นพี่เป็นทหารข่มขืน แล้วเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ครั้งแรกไม่ยอมรับแจ้งความ แต่สุดท้ายก็รับแจ้งความ แต่ใช้วาจาไม่สุภาพ รวมถึงทางมหาวิทยาลัยเองพาบุคคลภายนอกที่เป็นนายของผู้ก่อเหตุมาซักถามลูกของตน โดยระหว่างการซักถามไม่มีผู้หญิงอยู่เลย ใช้คำถามเชิงข่มขู่ให้รับว่าสมยอมกับเขาหรือไม่ มีอะไรกับเขามาแล้วกี่ครั้ง ทำให้รู้สึกแย่และไม่พอใจ ทั้งที่ลูกเป็นผู้ถูกกระทำไม่ใช่ผู้กระทำ นอกจากนี้ยังโดนข่มขู่แล้วนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปประจานให้คนอื่นทราบ

ด้านพล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องร้องเรียนนี้มานานกว่า1เดือน และวันนี้นัดมารดาผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม กรณีติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง และ สน.ยานนาวา ที่ไม่สุภาพ ไม่อำนวยความสะดวก สั่งการให้ พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รองผบช.น. ดูแลงานจเรตำรวจ ตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง และ สน.ยานนาวา กรณีผู้เสียหายไปแจ้งความแล้วดำเนินการล่าช้า และพูดจาไม่สุภาพ ว่าทั้งหมดว่ามีความบกพร่องอย่างไร โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด

Advertisement

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ รับแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ที่กลุ่มผู้กระทำความผิด วางตะปูเพื่อทำให้รถยางแตกระหว่างไปแจ้งความ ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการทั้งหมดแล้ว ส่วนกรณีที่หลังเกิดเหตุทางอาจารย์ของผู้เสียหายนัดพูดคุยกับผู้เสียหาย และมีการกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ในห้องประชุมกว่าครึ่งชั่วโมง ได้ดำเนินคดีกับอาจารย์และบุคคลที่อยู่ในห้องในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว คดีดังกล่าวเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ สน.บางเขน นอกจากนี้ผู้เสียหายยังเข้าแจ้งความเพิ่มเติมที่ สน.ยานนาวา กรณีเพื่อนผู้กระทำความผิดโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตามสำหรับคดีข่มขืนที่เกิดขึ้นยอมความกันไปแล้ว

ส่วนผู้เสียหายมีความสัมพันธ์กับผู้ก่อเหตุอย่างไร พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นนายทหารชั้นประทวนอายุประมาณ 50 ปี รู้จักกับผู้เสียหายผ่านทางกิจกรรมการเล่นดนตรี ส่วนถูกกระทำหรือสมยอมนั้น ไม่ขอตอบเพราะกรณีดังกล่าวจบไปแล้ว แต่พ่อแม่ติดใจเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สั่งการตั้งคณะกรรมตรวจสอบการกระผิดทางวินัยว่าบกพร่องตรงส่วนใดบ้าง โดยให้รายงานผลมาโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามการรับแจ้งความเป็นเรื่องของงานธุรการเท่านั้น แต่พนักงานสอบสวนต้องสอบปากคำก่อนรับแจ้งความเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image