เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมพล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รองผบช.ปส. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. และนายถาวร เนียมนำ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงานป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ และแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ ปี 2561 ในห้วงวันที่ 22 ธันวาคม – มกราคม 2561
พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ประชาชนจะเดินทางกันมาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.จึงได้มีวิทยุสั่งการ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม กำหนด มาตรการป้องกันปราบปรามปฏิกรรมช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2561 เพื่อป้องกันอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินให้แก่งประชาชนทั่วประเทศ และตนได้มีวิทยุสั่งการ วันที่ 13 ธันวาคม ให้ทุกหน่วย ระดมปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ค้ายาเสพติดและผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติดภายในชุมชน สถานบริการ แหล่งท่องเที่ยว สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด รวมทั้งการขยายผลเพื่อทำลายเครือข่ายในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า จึงให้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ปี 2561 ขึ้น เพื่อกวาดล้างปราบปรามจับกุมเครือข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกประเภทโดยรวมถึงกลุ่มผู้สนับสนุนช่วยเหลือ กลุ่มกระบวนการค้ายาเสพติดต่างๆ และให้ใช้มาตรการยึดทรัพย์สินกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอย่างเข้มข้นโดยเริ่มปฏิบัติการในห้วงวันที่ 22 ธันวาคม -5 มกราคม 2561 จำนวน 65 เป้าหมาย ในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ กรุงเทพฯ 18 จุด ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 9 จุด ตำรวจภูธรภาค 2 จำนวน 11 จุด ตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 1 จุด ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 2 จุด ตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 9 จุด ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 2 จุด และตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 13 จุด ใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติการในภารกิจจำนวน 780 นาย ประกอบด้วย บช.ปส. 500 นาย บช.ก. 150 นาย ป.ป.ส.30 นาย หน่วยงานอื่นๆ 100 นาย
เป้าหมายปฏิบัติการตามแผนปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ปี 2561 มีทั้งหมด 65 เป้าหมาย แบ่งการปฏบัติดังนี้ บก.ปส.1 เข้าตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายปากน้ำสมุทรปราการจำนวน 11 เป้าหมาย จากการจับกุมคดียาเสพติด 2 คดี ประกอบด้วยเมื่อวันที่ 21 กันยายน จับกุมน.ส.อลิษา บุญญะอินทร์ พร้อมไอซ์ 21 กก. ยาบ้า 30,000 เม็ด วันที่ 2 พฤศจิกายน จับกุมนายณรงค์ชัย ขุนเมพ พร้อมยาบ้า 860,000 เม็ด ไอซ์ 43 กก. จากการสืบสวนทราบว่าทั้ง 2 คดีเป็นเครือข่ายปากน้ำสมุทรปราการ มีนายพงษ์ชัย หรือปั้น เทียมทัด กับพวกอยู่เบื้องหลัง จึงได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 4 ราย และมีการออกหมายค้น เพื่อจับกุมผู้ต้องหา หาพยานหลักฐาน และตรวจสอบทรัพย์สินในพื้นที่ต่างๆ จำนวน 11 เป้าหมาย
บก.ปส.2 เป้าหมายเครือข่าย “เทียนเอ เดอะซีรีส์” พื้นที่ จ.ระยอง จำนวน 11 เป้าหมาย จากปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 60/6 ผลพวงแห่งความโลภ(เครือข่ายเอกอ้วน) ซึ่งนำไปสู่ปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/1 เสือสิ้นลาย(มินเทียนเอ) ต่อมาบก.ปส.2 ได้ขยายผลจนทราบว่า นางมิน เทียน เอ มีเครือข่ายในพื้นที่จ.ระยอง คือนางเฟิร์น กับพวก จนเป็นที่มาของปฏิบัติการ”เทียนเอ เดอะซีรีส์” ในการปิดล้อมตรวจค้น เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ พยานหลักฐาน และตรวจสอบทรัพย์สินจำนวน 11 เป้าหมาย
บก.ปส.3 เป้าหมายเครือข่ายเกาะช้างแม่สายและเครือข่ายม้งเชียงใหม่ขนเฮโรอีน 99 กก. รวม 10 เป้าหมาย สืบเนื่องจากการจับกุมคดียาเสพติด 2 คดี คือเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน สภ.หาดใหญ่ได้ตรวจยึดเฮโรอีนจำนวน 99 กก.ยาบ้า 6,000 เม็ด สืบสวนจนพบว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายม้งเชียงใหม่ที่ลักลอบขนยาเสพติดลงสู่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้ออกหมายจับ 5 หมาย และเมื่อ 21 กันยายน ตำรวจนครบาลจับกุมน.ส.อลิษา บุญญะอินทร์ พร้อมของกลางไอซ์น้ำหนักประมาณ 21.7 กก.และยาบ้า 30,000 เม็ด จากนั้นสืบสวนขยายผลทราบว่า เครือข่ายเกาะช้าง แม่สาย จ.เชียงราย สามารถออกหมายจับ 1 หมาย จึงเป็นเป้าหมายเพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและหาพยานหลักฐานพร้อมตรวจสอบทรัพย์สิน 10 เป้าหมาย
บก.ปส.4 เป้าหมายเครือข่ายสุไหงโกลก 13 เป้าหมาย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม สภ.ท่าแซะ สภ.สลุย จ.ชุมพร ชุดสืบสวนบก.สส.ภ.8 และตชด.414 ชุมพร จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าจำนวน 658,000 เม็ด บก.ปส.4 ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทำให้ทราบว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายผู้ค้าสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีน.ส.ซีตี มะนอ และนายอับดุลรอพี อุแม หรือธวัชชัย เบญมะอูเซ็ง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแล้วจะการสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นร้านรับแลกเงินในพื้นที่ภาคใต้ มีการขนเงินสดจากสนามบินสุไหงโก-ลกขึ้นมาที่กรุงเทพฯเกือบทุกวัน เชื่อว่าเป็นเงินสดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงนำไปสู่เป้าหมายจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งน.ส.ซีตี และนายธวัชชัย กับพวก และหาพยานหลักฐานและตรวจสอบทรัพย์สิน 13 เป้าหมาย จนสามรถจับกุมน.ส.ซีตีได้ ส่วนนายธวัชชัยได้หลบหนีไป
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า การเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจะต้องใช้ความระมัดระวังเพราะอาจถูกซุ้มโจมตีได้ โดยได้ประสานความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ ป.ป.ส. และบช.ก. เข้าร่วมปฏิบัติการณ์จนสามารถยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาได้ การลำเลียงยาเสพติดของเครือข่ายดังกล่าวที่ผ่านมาจะเปิดทางการขนลำเลีบงยาเสพติดไปส่งด้วยการลอบวางระเบิดในพื้นที่อื่น เพื่อเบี่ยงความสนใจของเจ้าหน้าที่ เปิดทางให้การลำเลียงยาเสพติดเป็นไปได้สะดวก
บก.ขส.และบก.สกส. ขยายผลจับกุมยาบ้าและไอซ์รายใหญ่ของบช.น.และเครือข่ายกัญชา 500 กก. จำนวน 20 เป้าหมาย สืบเนื่องจากในช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน บช.น. ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติด 3 คดี ได้แก่ ไอซ์ 21 กก. ไอซ์ 5 กก. และยาบ้า 5 ล้านเม็ด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จนเมื่อวันที่ 21-22 พฤศจิกายน บก.ข่าวกรองยาเสพติด บก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดและบก.ปส.4 ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมกัญชา 500 กก. บช.ปส.จึงได้กำหนดเป้าหมายเพื่อจับกุมและรวบรวมพยานหลักฐานเครือข่ายการทำธุรกรรมทางการเงินและการขนยาเสพติด 20 เป้าหมาย โดยมีจุดสำคัญคือการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมกัญชา 500 กก.
พ.ต.อ.สมเกียรติ วรรณสิริวิไล รองผบก.ขส.บช.ปส. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20-21 ธันวาคม เครือข่ายปากซันได้ส่งยาเสพติดจากชายแดนไทย-สปป.ลาว เข้าสู่พื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยผ่านทางชายแดนจ.หนองคาย และจ.บึงกาฬ ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นายสุชาติ แสงตะวัน นายสถาพร ก่ำแก้ว และนายสมคิด เสนพิแสง ได้นำรถยนต์บรรทุกกระบะนำกัญชาไปส่งในพื้นที่หนองประจักษ์ จ.อุดรธานี ก่อนขนกัญชาใส่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ออกจากจ.อุดรธานี ใช้เส้นทาง ขอนแก่น-นครราชสีมา-กรุงเทพฯ-เขาน้อย เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ จนกระทั่งเวลา 02.00 น.ได้นำรถบรรทุกพ่วงเข้าตรวจค้นที่ด่านศุลกากร อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบของกลางกัญชา 500 กก. พร้อมผู้ต้องหา 2 คน โดยสืบทราบว่านายสุชาติได้นั่งเครื่องบินไปรอรับยาที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงขยายผลตรวจค้นเป้าหมายนายสุชาติ ยึดรถยนต์ 2คัน รวมมูลค่า 6.5 แสนบาท จากการสืบสวนขยายผลพบว่าเครือข่ายปากซัน ในปีที่ผ่านมาได้ถูกจับกุมที่สำคัญ 4 ครั้ง ประกอบด้วย 1.เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ได้จับกุมนายประหยัด โพธิ์หล้า พร้อมพวก 4 คน ได้ที่อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งได้ลำเลียงยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด กัญชา 1.1 ตัน มาจากอ.รัตนวาปี จ.หนองคาย 2.2 กรกฎาคม จับกุมนายคมสันต์ พลเสนา พร้อมพวก 8 คน ได้ที่อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้ลำเลียงยาบ้า 525 กก. จากอ.รัตนวาปี จ.หนองคาย 3.28 กันยายน จับกุมนายโกศล ศรีมงคล พร้อมพวก โดยมีไอซ์ 400 กก. ได้ที่อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต่อเนื่องภาคใต้ และ4.จับกุมนายสุชาติและพวกได้ของกลางกัญชา 520 กก.
พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลปฏิบัติตั้งแต่ 22-25 ธันวาคม ได้จับกุม 21 คดี ผู้ต้องหา 23 คน ยึดของกลางยาบ้า 100,248 เม็ด ไอซ์ 42.34 กก. กัญชา 520 กก. กระท่อม 1 กก. ฝิ่นดิบ 3.4 กก. อาวุธปืน 1 กระบอก กระสุนปืน 14 นัด ยึดทรัพย์เงินสด 158,000 บาท ทรัพย์สินอื่นๆ 42,495,000 บาท รถยนต์ 26 คัน รถจักรยานยนต์ 5 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 3 หลัง รวมมูลค่าทรัพย์สิน 42,653,000 บาท