ยธ.แจงไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังสาวจุดไฟเผาตัวหน้าทำเนียบ ระบุไม่ได้รับการช่วยเหลือ

จากกรณีนางพยอม เพชรโก อายุ 32 ปี เดินทางมาขอความช่วยเหลือ ณ จุดบริการประชาชน 1111 โดยระบุว่าถูกเจ้าหนี้นอกระบบติดตามทวงถามกดขี่และรังควาน เนื่องจากผู้ร้องได้กู้ยืมเงินจากเจ้าหนี้นอกระบบ นำเงินมาทำร้านคาราโอเกะ โดยแจ้งว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมไม่สามารถช่วยเหลือได้เนื่องจากไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงของเจ้าหนี้ จึงไม่สามารถเรียกเจ้าหนี้มาพูดคุยไกล่เกลี่ยได้ และได้นำน้ำมันมาราดและเผาตัวเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่และผู้พบเห็นได้ช่วยกันดับไฟและปฐมพยาบาล ณ บริเวณกองอำนวยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล

วันที่ 29 ธันวาคม 2560 นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงกระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องจากกองอำนวยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลให้ดำเนินการเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม โดยผู้ร้องมีความประสงค์ขอให้เจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้แต่ละราย เนื่องจากผู้ร้องต้องหาเงินเพื่อมาชำระหนี้เป็นรายวัน ไม่เพียงพอและเดือดร้อนมาก และผู้ร้องยังอ้างว่าได้ถูกเจ้าหนี้ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย แต่ผู้ร้องไม่รู้จักชื่อและนามสกุลจริงของเจ้าหนี้

ดังนั้น ในเบื้องต้นศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรมจึงให้คำแนะนำผู้ร้องแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษและลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งก็ทราบว่าผู้ร้องได้ไปดำเนินการตามที่ให้คำแนะนำดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเห็นว่าในกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องหนี้นอกระบบ ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรมไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ส่งเรื่องนี้ไปยังศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำงานคู่ขนานไปกับการที่ผู้ร้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษและลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวนดังกล่าวข้างต้น แต่ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนฯได้พยายามติดต่อผู้ร้องตามเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ให้ทั้ง 2 หมายเลข แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ทำจดหมายเพื่อส่งถึงผู้ร้องตามที่อยู่ที่แจ้งเพื่อให้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากว่าเจ้าหนี้ทั้งหมดไม่มีชื่อและนามสกุลที่จะไปดำเนินการติดตามช่วยเหลือได้ดังกล่าว แต่ยังไม่ทันส่งหนังสือออกก็เกิดเหตุกรณีผู้ร้องพยายามเผาตัวเองเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมได้ติดต่อพูดคุยกับผู้ร้องที่โรงพยาบาลที่ทำการรักษาพยาบาลแล้ว เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในการดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image