พักราชการ’พ.ต.ท.’พนง.สส.สน.คันนายาว ปลอมเอกสาร พฐ. เหตุผิดวินัยชัด สอบดำเนินคดีอาญาด้วย

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายสุชิน เชื้อแฉ่ง นำหลักฐานเข้าแสดงต่อ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) หลังพบพิรุธใบสรุปผลตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมนายสุทธิพงษ์ เชื้อแฉ่ง อายุ 19 ปี บุตรชาย เมื่อปลายปี 2557 ซึ่งเมื่อตรวจสอบกับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) พบว่าเป็นเอกสารปลอม โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2557 หลังมีผู้พบศพนายสุทธิพงษ์บริเวณใต้ทางด่วนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน โดยหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สน.คันนายาวมีหนังสือถึง ผบก.พฐก. ส่งวัตถุพยานมาให้ตรวจพิสูจน์ ซึ่งทาง พฐก.ตรวจวัตถุพยานและส่งผลการตรวจกลับไปยังพนักงานสอบสวน สน.คันนายาวเรียบร้อยแล้ว ต่อมานายสุชินไปติดตามความคืบหน้าของคดีและได้รับเอกสารรายงานการตรวจพิสูจน์วัตถุพยาน แต่พบสิ่งผิดปกติจึงนำสำเนาเอกสารมาตรวจสอบที่ พฐก. ปรากฏว่าเป็นเอกสารราชการปลอมว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมามีคำสั่งพักราชการ พ.ต.ท.เทิดศักดิ์ ทักษิมา พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.คันนายาว เจ้าของคดีดังกล่าวแล้ว โดยไม่มีกำหนดเนื่องจากกระทำความผิดทางวินัยอย่างชัดเจน โดยอยู่ระหว่างการตั้งคณะสอบสวนความผิดทางคดีอาญา ทั้งนี้ สั่งการให้ไปสอบปากคำ พฐ.ในเรื่องเอกสารที่ถูกปลอมแปลง และสอบปากคำพนักงานสอบสวนคนดังกล่าว ซึ่งหากพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินคดี อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างตรวจสอบย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2554 ที่พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวมารับตำแหน่งว่ามีการค้างสำนวนไปมากน้อยแค่ไหน และพิจารณาความบกพร่องของผู้บังคับบัญชาในส่วนของรอง ผกก., ผกก.,ไปจนถึงรอง ผบก.ฝ่ายสอบสวนที่ไม่ติดตามพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาปล่อยให้ค้างสำนวนมาเป็นเวลา 3-4 ปี

ด้าน พ.ต.ท.พีรวัส ประสาทกลาง รอง ผกก.สส.สน.คันนายาว กล่าวว่า สำหรับการติดตามจับกุมคนร้ายมีการไปเชิญผู้ต้องสงสัยจำนวน 2-3 รายส่งให้ พฐ.ตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเทียบเคียงกับดีเอ็นเอและวัตถุพยานที่ได้จากที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นคดีที่ยากพอสมควร เพราะสภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงไปมาก และไม่ได้มีการเก็บหลักฐานสำคัญบางอย่าง เช่น กล้องวงจรปิด รวมถึงวัตถุพยานของคนร้ายไปส่งตรวจพิสูจน์ตั้งแต่เกิดเหตุ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image