อสส.ชี้ขาด’พริตตี้-โบรกเกอร์สาว-พ.ต.ท.บรรยิน’โดนข้อหา’ปลอมเอกสารสิทธิ’โอนหุ้น’เสี่ยชูวงษ์’

เมื่อวันที่ 9 มกราคม นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวนายชูวงษ์ หรือเสี่ยจืด แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้านที่เสียชีวิตเมื่อปี 2558 ในเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ เป็นคนขับ กล่าวถึงกรณีที่นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้องคดีโอนหุ้นกว่า 300 ล้านบาทว่า “ขอขอบคุณ อัยการสูงสุดที่สั่งคดีฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ครอบครัวรับว่าพอใจในคำสั่งคดีของอัยการสูงสุดในระดับหนึ่ง การสั่งคดีเช่นนี้ทำให้เชื่อว่าครอบครัวยังมีความหวังที่จะได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ในกรณีที่เกิดขึ้น แม้ว่าเราใช้เวลาเรียกร้องความเป็นธรรมมายาวนานถึง 2 ปีครึ่ง”

นางวันเพ็ญกล่าวต่อว่า เท่าที่ทราบข้อหาที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องนั้น ยังขาดข้อหาเกี่ยวกับคดีการลักทรัพย์และรับของโจร อาจยังเป็นปัญหาการตีความข้อกฎหมายที่เห็นต่างกันอยู่ระหว่างทีมอัยการและทีมกฎหมายของครอบครัว แต่ครอบครัวไม่กังวลเพราะคิดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและครอบครัวได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว ครอบครัวในฐานะผู้เสียหายควรจะได้รับการชดใช้ ผู้กระทำผิดกฎหมายควรได้รับการลงโทษ ครอบครัวยังจะเดินหน้าฟ้องร้องด้วยตนเองเพื่อถามหาความเป็นธรรมต่อไป

นางวันเพ็ญกล่าวอีกว่า จากนี้รอการพิสูจน์ในชั้นศาล อาจยังมีปัญหาในการตีความกฎหมายของผู้เกี่ยวข้อง ส่วนนี้ครอบครัวคงจะไม่ขอพูดอะไรอีก โดยจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ที่จะวินิจฉัยในการดำเนินคดีเพื่อพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ต่อไป

“ขอขอบพระคุณผู้ที่ติดตามและให้กำลังใจตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในการสืบสวนสอบสวนและมอบความเป็นธรรมคืนให้กับครอบครัว” นางวันเพ็ญกล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหานั้น อัยการสูงสุดให้ฟ้อง น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 28 ปี อดีตพริตตี้คนสนิทนายชูวงษ์ น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทหลักทรัพย์ เออีซีเอส จำกัด (มหาชน) คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน และ พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 1, 3 และ 4 ฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ส่วน น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 53 ปี มารดาของ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาที่ 2 นั้นเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง ขณะที่สำนวนการสอบสวนเดิม พนักงานสอบสวนสรุปความเห็นควรฟ้องทั้ง 4 คนในข้อหา ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร

ทั้งนี้ หลังจากอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดแล้ว จะต้องแจ้งพนักงานสอบสวน โดยล่าสุดหลังจากอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย คือ น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล อายุ 28 ปี อดีตพริตตี้คนสนิทนายชูวงษ์, น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว อายุ 27 ปี โบรกเกอร์ คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน และ พ.ต.ท.บรรยิน อายุ 55 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ แล้ว อัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนติดตามนำตัวผู้ต้องหาทั้งสาม มาส่งให้อัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป

ข่าวแจ้งว่า สำหรับพฤติการณ์คือ น.ส.กัญฐณา ร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ไปดำเนินการถอนและโอนหลักทรัพย์ของนายชูวงษ์ต่อบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค ประเทศไทย ขณะที่ น.ส.อุรชา เป็นโบรกเกอร์คนสนิทของ พ.ต.ท.บรรยิน ร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 4 ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ไปดำเนินการถอนและโอนหลักทรัพย์ของเสี่ยชูวงษ์ ต่อบริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน)

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image