ฟัน4ข้อหาบริษัทต่างชาติสร้างหนัง เซตฉากถ.ข้าวสาร ขายของอุจาด เสื่อมเสียภาพลักษณ์ประเทศ

กรณีโซเชียลมีเดียโพสต์คลิปพร้อมภาพต่างชาติจัดฉากทำหนังเกี่ยวกับการขายของเล่นผู้ใหญ่(เซ็กซ์ทอย)ในทางไม่เหมาะสม บริเวณถนนข้าวสาร เพราะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสื่อมเสียด้านวัฒนธรรม ประเพณีของไทย โดยระบุว่า !!! ถนนข้าวสารจริงหรือ !!! ใครทำ? ทำทำไม? การถ่ายหนังของคุณต้องสร้างฉากที่มันทำร้ายทำลายถนนข้าวสารและวัฒนธรรมประเพณีของไทย ความรู้สึกของคนไทยมันเจ็บปวดครับ” นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มกราคม ที่สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.ประจักษ์ พงษ์ปรีชา รองผกก.(สอบสวน)สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.ภูวดล อุ่นโพธิ รองผกก.จร.สน.ชนะสงคราม และพ.ต.ต.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล สว.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.1 บช.ทท. ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีถ่ายทำภาพยนตร์บนถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร

โดยพ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม เวลาประมาณ 09.30 น. บริษัท INDO BANGKOK FILM CO., LTD. เป็นบริษัทถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศนำหนังสือที่ได้รับอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ส่วนหนึ่งจะต้องมีการถ่ายทำที่ถนนข้าวสาร กรมการท่องเที่ยวมีข้อห่วงใยและกำชับไว้ชัดเจนให้ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายทำบนถนนข้าวสารมากเป็นพิเศษ โดยการถ่ายทำจะต้องไม่สร้างผลกระทบหรือภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทางพ.ต.ท.ภูวดล เป็นผู้รับเรื่องไว้ได้อำนวยความสะดวกเรื่องการดำเนินการ ได้ดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอน โดยตรวจสอบรายละเอียดว่าการถ่ายทำมีลักษณะอย่างไร มีฉากแบบไหน อย่างไร เบื้องต้นรับแจ้งว่าการถ่ายทำทั้งหมดเป็นเพียงการจำลองสถานที่ การดำเนินเรื่องจะอยู่ในต่างประเทศในเรื่องของการค้าขายบนถนนเท่านั้น มุมกล้องจะไม่มีเรื่องของถนนข้าวสาร ประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามได้รับแจ้งจากบริษัทดังกล่าวอีกด้วยว่าได้มีการถ่ายทำที่ประเทศไทยในหลายพื้นที่แล้ว

Advertisement

พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากมีการตั้งอุปกรณ์ เซตฉากแล้ว พบเห็นภาพหรือวัสดุอุปกรณ์ตามที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียล ทางพ.ต.ท.ภูวดล จึงได้สั่งการให้ยุติการถ่ายทำในทันที เนื่องจากภาพบางภาพ อุปกรณ์ รวมถึงป้ายข้อความ มีลักษณะไม่เหมาะสม จากนั้นตนสั่งการให้พ.ต.ท.ประจักษ์ รับคำร้องทุกข์และดำเนินคดีใน 4 ข้อหากับบริษัท INDO BANGKOK FILM CO., LTD. ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติ จากการตรวจสอบมีกรรมการผู้จัดการบริษัท2คน ได้ออกหมายเรียกประสานพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของบริษัทที่พัทยา จ.ชลบุรี ให้มารับทราบข้อกล่าวหา จากการประสานทราบว่าอยู่ระหว่างการเดินทางเข้ามาที่สน.ชนะสงคราม

ด้านพ.ต.ท.ประจักษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้จะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในฐานความผิด 4 ข้อหา ประกอบด้วย1. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งได้สั่งการตามอำนาจที่กฎหมายมีให้ไว้โดยไม่มีเหตุอันสมควร 2. เพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ผลิต ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆซึ่งภาพยนตร์ แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก 3. กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปิดเผยร่างกายและตั้งวางวัตถุใดๆ บนถนน และ4.พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.3535 มาตรา 19 ประกอบมาตรา 57

พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวต่อว่า ทางสน.ชนะสงครามมีมาตรการ กฎ กติ มารยาท ในการตรวจสอบดำเนินการบริษัทถ่ายทำภาพยนตร์ จะเป็นคลิป หนังสั้น วิดีโอ มิวสิควีดิโอ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว จะทำการตรวจสอบว่ามีลักษณะสุ่มเสี่ยงหรือไม่ เหมาะสมกับพื้นที่หรือสถานที่ หรือการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวหรือไม่ ทั้งนี้วัตถุประสงค์ที่ผู้ที่มาติดต่อได้ยื่นขออนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวเป็นที่เรียบร้อย และระบุชัดเจนว่าผู้ที่มาถ่ายทำจะต้องใช้ความระมัดระวังในการเสนอภาพที่ไม่เหมาะสมในระหว่างการถ่ายทำที่อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยบริเวณถนนข้าวสาร ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

Advertisement

ต่อมา เวลา 17.00 น. นายดิลเบีย ซิงห์ซานี และ น.ส.เบญจมาศ ศรีสังข์ กรรมการ บริษัท INDO BANGKOK FILM CO., LTD. พร้อมทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม เพื่อรับทราบข้อหา ทั้ง 4 ข้อหา

โดยพ.ต.ท.ภูวดล กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทั้งคู่รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว จะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ก่อนนัดไปศาลแขวงดุสิตเพื่อให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาคดี ในวันที่ 19 มกราคม เวลา 10.00 น.

ด้านนายสวัสดิ์ เพ็งพินิจ ทนายความ กล่าวว่า นายดิลเบียและน.ส.เบญจมาศ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากการประสานงานที่ผิดพลาดในเรื่องของการถ่ายทำ อยากขอโทษคนไทยทุกคน เพราะนายดิลเบีย อยู่ประเทศไทยมานาน เมื่อเห็นว่ามีการถ่ายทำฉากดังกล่าวก็รีบสั่งให้ทีมงานยุติการทำงานทันที ตอนนี้ทั้ง2คนรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยจะเดินทางไปศาลตามที่เจ้าหน้าที่นัดหมาย และจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image