ดีเอสไอรู้เจ้าของวิคตอเรียตัวจริง ไล่เช็กยอดเงินรูดบัตรแบงก์โอนต่อไปไหน สัปดาห์หน้ารู้ของกลางตู้เชฟ

จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนธิกำลังกับหลายหน่วยงานตรวจค้นสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ในซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. โดยศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 8 ราย รวมถึง น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่อาบอบนวดดังกล่าวในข้อหาค้ามนุษย์และอื่นๆ นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 มกราคม 2561 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มกราคม ได้ให้ พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำหนังสือประสานอย่างเป็นทางการไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อขอสำนวนคดีอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท มาให้ดีเอสไอเป็นผู้ทำคดี โดยระดับผู้บริหารทั้ง 2 หน่วยได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนการทำบัญชีของกลางในตู้เซฟ 3 ตู้ที่อายัดมาจากวิคตอเรีย ซีเครทนั้น ได้ประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นผู้ทำบัญชีของกลาง คาดสัปดาห์หน้าแล้วเสร็จ ทั้งนี้ ในส่วนของรายชื่อบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าวตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ระบุนั้นกำลังตรวจสอบข้อมูล ตอนนี้ยังไม่เห็นสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอจะเดินทางไปรับสำนวนคดีวิคตอเรีย ซีเครท โดยมี พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นตัวแทน ส่งมอบสำนวนที่ห้องแถลงข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 1 อาคาร 1 วันนี้ เวลา 14.00 น.

รายงานข่าวจากดีเอสไอแจ้งว่า สำหรับข้อมูลทื่ปรากฏชื่อ “เสี่ยกำพล” เป็นเจ้าของกิจการ ในแวดวงอาบอบนวดจะเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ซึ่งดีเอสไอก็ทราบข้อมูลเช่นกัน แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานที่ตรวจคค้นและยึดได้ในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งการตรจสอบเส้นทางการเงินรายรับ-รายจ่ายของทางวิคตอเรีย ซีเครท ว่ามีความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงหรือไม่อย่างไร โดยในวันที่ตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดเครื่องรูดบัตรของธนาคารมาตรวจสอบ และประสานธนาคารเพื่อตรวจเช็กยอดการโอนเงินจากทางธนาคารเจ้าของเครื่องไปยังบุคคลหรือบัญชีผู้ใด ซึ่งจะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบันที่มีการตรวจค้นจับกุม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image