น.ศ.มหา’ลัยดังพิษณุโลก ร้องผบช.ภ.6 ถูกหนุ่มอ้างเป็นตำรวจขับรถไล่ยิง-กระทืบเจ็บสาหัส

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 23 มีนาคม ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมืองพิษณุโลก กว่า 50 คน เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ.6 กรณีถูกบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมทำร้ายร่างกายเพื่อนนักศึกษา จำนวน 5 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งทางด้านร่างกายและสภาพจิตใจ โดยขณะที่กลุ่มนักศึกษามายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ติดราชการจึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผบก.อก.ภ.6 เป็นผู้รับเรื่องราวร้องทุกข์ดังกล่าวไว้

นายธนพล คงอิว อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มรภ.พิบูลสงคราม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองพร้อมด้วยเพื่อนชายและหญิงจำนวน 5 คน ได้แก่ นายชัยธวัช ธำรงศักดิ์คุณ คนขับ นายศิริวัฒน์ คุ้มทัศ นั่งข้างคนขับ ส่วนตนเองพร้อมกับ น.ส.กมลชนก กล่ำเทพ และนายธราเทพ แสงพิรุณ นั่งเบาะหลัง ได้ขับรถยนต์เดินทางออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อมุ่งหน้าไปซื้อดอกไม้มาจัดงานสัมมนาวิชาการของทางมหาวิทยาลัย ระหว่างทางที่ขับรถยนต์มาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณสามแยกข้างสะพานสูงฝั่งท็อปแลนด์พลาซ่า ถ.เอกาทศรถ มีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ขับเข้ามาปาดหน้าจากทางด้านซ้ายโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว เพื่อนที่ขับรถจึงได้บีบแตรรถใส่รถคันดังกล่าว ที่มีลักษณะการขับขี่ที่มึนเมา ก่อนจะขับรถยนต์ลอดใต้สะพานสูงข้ามทางรถไฟ แล้วเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าเข้าตลาด แต่ระหว่างการเลี้ยวซ้ายนั้น รถคันดังกล่าวได้พุ่งชนจากทางด้านหลัง นายชัยธวัชกำลังจะหยุดรถเพื่อลงไปดูรถของตนเอง แต่ขณะนั้นได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น 4 ครั้ง และนักศึกษาที่ร่วมนั่งมาในรถด้วยเห็นว่าคนในรถคันดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงใส่ ด้วยความตกใจเลยบอกให้นายชัยธวัชขับรถหนี ระหว่างหนีก็ถูกคนที่อยู่ในรถไล่ยิงตลอดทาง จนรถได้รับความเสียหายไม่สามารถที่จะขับไปต่อได้ เพราะถูกยิงเข้าที่ยางด้านหลังขวาแบนแฟ่บ

201603231641429-20021028190244

“ต่อมาชายไม่ทราบชื่อเข้ามาพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ไม่สามารถเปิดได้ กระทั่งชายดังกล่าวใช้อาวุธปืนจ่อขู่ให้เปิดประตูแล้วใช้คำพูดขู่อีกว่า ‘ถ้าไม่เปิดประตูจะยิง’ จึงยินยอมเปิดประตู จากนั้นชายดังกล่าวได้ไล่ผมและเพื่อนรวม 5 คน ลงจากรถโดยใช้อาวุธปืนขู่ให้หมอบลงกับพื้น แล้วลงมือทำร้ายร่างกายนายชัยธวัช ธำรงศักดิ์คุณ คนขับ ทั้งกระทืบและให้ด้ามปืนฟาดเข้าที่ศีรษะจนแตก และใช้เชือกมัดมือก่อนใส่กุญแจมือ พร้อมด่าทอด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพหยาบคาย ต่อมาชายคนดังกล่าวได้ลงมือกระทำกับนายศิริวัฒน์ โดยเข้ามาเตะเข้าที่ใบหน้า 2 ครั้ง อย่างรุนแรงจนบาดเจ็บสาหัส และทำร้ายร่างกายตนเองโดยกระทืบที่บริเวณท้ายทอยอย่างรุ่นแรงหลายครั้ง มิหนำซ้ำชายคนดังกล่าวยังโทรศัพท์ตามเพื่อนชายอีก 2 คน โดยขี่รถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุ ก่อนจะเข้ามาใช้กำปั้นมือทุบบริเวณกกหูอย่างรุนแรง 1 ครั้ง จากนั้นชายทั้ง 2 คนได้ด่าทอดด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพหยาบคาย และใช้อาวุธปืนข่มขู่ทุกระยะ ต่อมาชายที่ทำร้ายร่างกายนายชัยธวัชจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย น.ส.กมลชนกอีก แต่นายธราเทพได้เข้ามาบังไว้ จึงถูกชายคนดังกล่าวใช้มือหยิบรองเท้าขึ้นมาฟาดที่บริเวณลำคอ และเตะที่บริเวณข้างลำตัว” นายธนพลกล่าว

Advertisement

นายธนพลกล่าวต่อว่า ระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมีรถยนต์ของผู้เสียหายอีกคัน ที่ถูกชายคนดังกล่าวขับรถชนได้รับความเสียหายเช่นกัน ได้ขับตามมาจนถึงจุดเกิดเหตุและพบว่ากลุ่มนักศึกษากำลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกาย จึงเปิดประตูรถลงไปช่วยแต่กลับถูกใช้ปืนจ่อข่มขู่ โดยระหว่างที่เกิดเหตุกล้องวิดีโอหน้ารถยนต์ของพยานสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะกลุ่มนักศึกษาถูกทำร้ายได้ทั้งหมด ภายหลังเหตุการณ์ยุติมีตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน รวม 6 คน เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก ในเครื่องแบบมาตรวจค้นรถของนักศึกษา แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด อีกทั้งกลุ่มนักศึกษาได้ขอให้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์กับกลุ่มชายที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมีลักษณะเหมือนมึนเมาสุรา แต่ทางตำรวจก็ไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์แต่อย่างใด

คืนเกิดเหตุเหตุการณ์มีตำรวจสายตรวจมาตรวจสอบ
คืนเกิดเหตุเหตุการณ์มีตำรวจสายตรวจมาตรวจสอบ

จากนั้นนักศึกษาทั้งหมดจึงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอินเตอร์เวชการ ผลตรวจของแพทย์พบว่านายชัยธวัช คนขับ ด้านหลังศีรษะแตกต้องเย็บ 5 เข็ม นายธราเทพมีรอยฟกช้ำตามร่างกายโดยเฉพาะที่ซี่โครง นายศิริวัฒน์มีบาดแผลที่จมูกหักเบี้ยวผิดรูป นายธนพลกระดูกคอร้าวต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน ส่วน น.ส.กมลชนก ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากพักฟื้นจนอาการทุเลาลงแล้วทั้งหมดจึงพากันมาแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.อิสระ คุ้มวันดี เวรร้อย สภ.เมืองพิษณุโลก แต่เนื่องจากผู้ที่กระทำความรุนแรงกับกลุ่มนักศึกษาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงพากันเดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กับทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image