‘อัยการ-ศาล’รปภ.เข้มนัดสั่งคดี’สุเทพ-แกนนำกปปส.’ฐานกบฏ ชี้ศาลพิจารณาประกันรูปแบบคณะกรรมการ

จากกรณีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 รับผิดชอบสำนวนคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นัดให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. , กลุ่มอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ กปปส. และแนวร่วม กปปส. ประกอบด้วย นักวิชาการ , อดีตเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) , กลุ่มกองทัพธรรม และกลุ่ม คปท. ผู้ต้องหาคดีร่วมกบฏ , ร่วมสนับสนุนการเป็นกบฏ , กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดที่มิใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ฯลฯรวม 8 ข้อหา จากการชุมนุมปิด กทม. เมื่อเดือน พฤศจิกายน2556- วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารายงานตัวในวันที่24 มกราคม เพื่อฟังคำสั่งคดีว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ข้อหาใดบ้างนั้น

เมื่อเวลา10.00น. วันที่ 23มกราคม รายงานข่าวแจ้งว่าที่ผ่านมาอัยการ ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้แทนศาลอาญา , กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าตำรวจพื้นที่ บก.น.2 ในการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการดูแลความเรียบร้อยขณะส่งตัวผู้ต้องหามาฟ้องที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก รวมทั้งการประกันตัวโดยอัยการให้เป็นดุลยพินิจของศาลในการพิจารณาสั่งประกัน ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ยื่นประกันเป็นไปตามแนวทางแกนนำกปปส. 4คน ที่อัยการเคยยื่นฟ้องศาลไปก่อนหน้านี้แล้ว ตีราคาประกันคนละ 600,000 บาท โดยการสั่งคดีอัยการนัดให้ผู้ต้องหาทั้งหมดมารายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ติดกับศาลอาญาก่อนเพื่อแจ้งคำสั่งคดี ในส่วนของผู้ต้องหาที่สั่งฟ้องแล้ว จะนำตัวไปส่งต่อศาลก่อนในลักษณะใครมาก่อนฟ้องก่อน โดยคดีนี้มีผู้ต้องหา 58 ราย ขณะที่ชั้นสั่งคดีก่อนหน้านี้มีสั่งไม่ฟ้อง 1 ราย และอัยการยื่นฟ้องไปแล้ว 4 ราย เเละมี 7 รายในกลุ่มอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ , นายทศพล เพ็งส้ม , นายสาธิต ปิตุเตชะ , นางนาถยา แดงบุหงา ที่แยกสำนวนพิจารณาเนื่องจากข้อหาเบากว่า ดังนั้นในส่วนของคดีร่วมกบฏและสนับสนุนกบฏ จะมีผู้ต้องหาที่จะสั่งคดี 40 กว่าคน อาทิ กลุ่มแกนนำ กปปส. อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ , นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย , นายชุมพล จุลใส , นายอิสสระ สมชัย , นายวิทยา แก้วภราดัย , นายถาวร เสนเนียม , นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ , นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

ส่วนแนวร่วมที่จะโดนข้อหาสนับสนุน อาทิ นางอัญชะลี ไพรีรัก , นายนิติธร ล้ำเหลือ , นายสุริยะใส กตะศิลา , นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ชยุตม์ ศิรโยธินภักดี ,นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , พระสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม , นายสาวิทย์ แก้วหวาน , นายสาธิต เซกัล (MR.SEHGAL SATISH) , นายอุทัย ยอดมณี , ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ , นายนัสเซอร์ ยีหมะ , พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ , นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ , พ.ต.ท.สุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ , นายสมบูรณ์ ทองบุราญ , น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี หรือ กฤดากร , นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ , นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ , นายสำราญ รอดเพชร , น.ส.รังสิมา รอดรัศมี , นางทยา ทีปสุวรรณ และกลุ่มนักวิชาการ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง , นายกิตติศักดิ์ ปรกติ

แหล่งข่าวระดับสูงจากศาลอาญา กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในส่วนของศาลอาญาว่า จะใช้มาตรการโดยคำนึงจากประสบการณ์ที่มีการสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ผ่านมา มีแผนการรองรับไว้อยู่แล้ว โดยมวลชนที่จะมาให้กำลังใจจะมีการจัดพื้นที่บริเวณหน้าศาลอาญา และศาลได้ประสานกับอัยการ , ตำรวจ , ทหาร และดีเอสไอแล้ว ได้รับแจ้งว่าตำรวจจะส่งกำลังพล 30 นาย , ทหาร 30 นายมาประจำการ ส่วนดีเอสไอยังไม่ทราบจำนวนแน่นอน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาและสำนักงานอัยการสูงสุดอีกด้วย รวมแล้วคาดว่าจะมีกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน

Advertisement

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ส่วนวิธีการนำตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องนั้น ขณะนี้มี2แนวทาง คือ การเดินทางโดยรถตู้ ที่มีการประสานรถจากดีเอสไอไว้แล้ว และการคุมตัวเดินเท้ามาจากสำนักงานอัยการสูงสุดมายังศาลอาญาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน โดยมีทางเดินเชื่อมถึงกันซึ่งทางที่เดินส่วนนี้จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทางด้วย สำหรับเมื่อมีการนำตัวมาฟ้องแล้วศาลอาญาจะจัดให้ผู้ต้องหาที่ถูกส่งมาทั้งหมดอยู่ในห้องควบคุมชั้น 1 ของศาล คือห้องเวรชี้ ขณะที่การพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีนี้จะมีคณะผู้บริหารศาลอาญา ในรูปแบบของคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาคำร้อง โดยหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณานั้นดูจากความหนักเบาของข้อหา และพิจารณาถึงความเป็นไปได้ว่าหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาแล้วจะหลบหนีหรือไม่ ส่วนประเด็นเรื่องที่จะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานคงไม่นำมาพิจารณาเนื่องจากการสอบสวนในคดีนี้เสร็จสิ้นหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับฝ่าย กปปส. ขณะนี้มีรายงานว่า นายสุเทพ และแกนนำ กปปส.9คน ได้เตรียมให้ทนายความ จัดหาหลักทรัพย์ไว้เพื่อพร้อมยื่นประกันตัวแล้ว หากอัยการสั่งฟ้องและยื่นฟ้องต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้(24ม.ค.)จะจัดกรมธรรม์ประกันภัย รวมทั้งเงินสดสำรองไว้ด้วย ขณะที่แนวร่วม กปปส. กลุ่มต่างๆเตรียมพร้อมหลักทรัพย์ไว้เช่นกัน อย่างไรก็ดีมีรายงานว่าผู้ต้องหากลุ่มนักวิชาการบางคน อาจจะขอเลื่อนนัด ไม่ได้มาพบอัยการ เนื่องจากติดภารกิจ

โดย นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส. กล่าวว่า พรุ่งนี้ตนมีความพร้อมจะเดินทางมาฟังคำสั่งตามที่อัยการนัดในเวลา 09.30 น.และได้เตรียมหลักฐานที่จะใช้ในการยื่นประกันตัวไว้แล้วด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image