วันที่ 26 มกราคม 2561 ร.ต.ท.หญิงบุษกร วงศาโรจน์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากคนเก็บขยะ พบคนเสียชีวิตที่บริเวณริมถนนเลี่ยงเมือง สาย 357 หมู่ 6 ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ไปตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่ในดงหญ้าข้างทาง สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ กางเกงถลกออกมาครึ่งหนึ่ง มีเลือดออกที่บริเวณปาก ตามลำตัวเปื้อนดินโคลนทั้งตัว แต่เบื้องต้นไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย เสียชีวิตคาดว่าไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง ทราบชื่อคือนายชาลี (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นชาวพม่า อายุประมาณ 40 ปี ไม่ทราบที่อยู่ ใกล้กันบริเวณริมถนนพบรอยเบรกล้อรถยนต์ยาวประมาณ 10 เมตร และบริเวณกลางถนนมีรอยดินโคลนและรอยหยดเลือดตกอยู่เป็นทาง
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่านายชาลีเป็นชาวพม่า ชอบดื่มสุรา ก่อนเสียชีวิตประมาณ 1 วัน ได้มีคนโทรมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายชาลีไปยืนส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่กลางตลาดเมืองสุพรรณ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเณรแก้วจึงได้พาตัวมาส่งไว้ที่บริเวณใต้สะพานริมทางรถไฟใกล้กับจุดที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จากนั้นนายชาลีก็นั่งเขี่ยกองดินเล่น จนเวลาประมาณ 14.00 น. จากนั้นก็มีพลเมืองดีคือนายณัฐพงศ์ ผลิศร อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาชั้น ปวส.วิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี ขับขี่จักรยานยนต์ผ่านมาเห็นเข้าและเกิดสงสารจึงได้ไปซื้อข้าวและนำมานั่งป้อนให้กิน แต่นายชาลีก็ไม่ยอมกิน ซึ่งดูแล้วอาการเหมือนคนสติไม่ดี จึงได้วางอาหารไว้และขอตัวกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ติดตามญาติผู้ตายคือนายจอห์นนี่ ประทาน อายุประมาณ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/3 หมู่ 1 ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้เดินทางมาดูศพ กล่าวว่าเมื่อวานเวลาประมาณบ่าย 3 โมง มีคนโทรมาบอกว่าน้องชายเข้า รพ. แต่ตนไม่ว่างจึงไม่ได้ไปดู โดยก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 วัน นายชาลีได้ไปมีเรื่องทะเลาะกับชาวพม่าด้วยกันและถูกทำร้ายมาจนคิ้วแตก แต่ก็เงียบกันไป จนมาวันนี้มีคนโทรไปบอกว่าเจอศพนายชาลีจึงรีบมาดูว่าใช่น้องตนหรือไม่
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้วก็สันนิษฐานว่า ก่อนเสียชีวิตนายชาลีอาจจะเดินและล้มกลิ้งหล่นไปข้างทางในพงหญ้าคูน้ำข้างทาง เนื่องจากพบรองเท้าห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จากนั้นอาจปีนขึ้นมาทำให้ตัวเปื้อนดินโคลน หรืออาจจะมีรถยนต์วิ่งมาเฉี่ยวชนจนทำให้นายชาลีกลิ้งตกถนนเสียชีวิตดังกล่าว หรือประเด็นฆาตกรรม ซึ่งก็ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้งไป ล่าสุดด้าน พ.ต.ท.เทอดไทย สุขไทย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางใกล้เคียงและเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนรอผลการชันสูตรถึงสาเหตุการตายที่แท้จริงจากแพทย์อีกครั้ง
