กรณีดีเอสไอสนธิกำลังกับหลายหน่วยงาน เข้าตรวจค้นสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง หลังพบข้อมูลเด็กสาวชาวพม่าถูกนำมาเปิดบริสุทธิ์ในเมืองไทย ก่อนถูกบังคับให้ค้าประเวณีที่สถานบริการแห่งนี้ โดยการตรวจค้นสามารถจับกุมนายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ อมรรัตนาศิริ อายุ 55 ปี หัวหน้าเชียร์แขก นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย อายุ 67 ปี ผู้จัดการ นายชัยณรงค์ อันสุข อายุ 53 ปี นายสมชาย แสงอุดม อายุ 52 ปี นายมนัส อ่วมทับ อายุ 48 ปี นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล ทั้ง 6 คนฝากขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วน น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ฝากขังไว้ทัณฑสถานหญิงกลาง
ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วยตำรวจหลายหน่วยจาก บช.ก. บช.น. บก.ทท. บก.ปปป. และ สตม. ส่งพนักงานสอบสวนเข้าร่วมคณะทำงานพิสูจน์ข้อเท็จจริง ในการตรวจสอบตำรวจที่มีอักษรย่อ และชื่อหน่วยงาน ตามเอกสารที่อายัดได้จากอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท เพื่อดำเนินการเอาผิดด้านวินัย เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 7 คนที่เรือนจำ เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 27 มกราคม พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปปป. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) แต่ละหน่วยได้เข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาในเรือนจำ 7 คนในแต่ละประเด็น ส่วน บก.ปปป.สอบในประเด็นวิธีและขั้นตอนการลงชื่อของเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาใช้บริการ และมีการขอส่วนลดการให้บริการต่างๆ เช่น เจ้าตัวมาใช้บริการด้วยตัวเองใหม่ ต้องลงแบบไหน หากมีผู้อื่นมาใช้ตั๋ว หรือโควต้า เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวจะต้องประสานเด็กเชียร์แขกคนไหน อีกทั้งความหมายที่มีการลงบิลเอกสาร หมายถึงอะไร เป็นกระบวนการแสวงหาก่อน เบื้องต้นได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่าผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือ ให้การว่าไม่รู้ไม่เห็น โดยวันที่ 30 มกราคมนี้ ตำรวจแต่ละหน่วยที่เข้าไปสอบจะเข้าประชุมเพื่อรายงานกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ ตร. หลังจากนั้นรอคำสั่งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
