เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 มกราคม พ.ต.อ.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ ผกก.สน.บุคคโล พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.มหพล มีเสน สว.สส. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด พล.ร.9 รวม 20 นาย เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 ซอยกำนันแม้น 17 ข้างปั๊มแก๊ส LPG ถนนกำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง หลังมีสายลับแจ้งว่าพบผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดีลักรถจักรยานยนต์ที่ตำรวจต้องการตัวเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
จากการตรวจค้นในบ้านพบนายบุญคงคา หรือดาว กันตามระ อายุ 36 ปี ยอมรับเป็นเจ้าของบ้าน และครอบครองเครื่องกระสุนปืนขนาด .22 ซุกซ่อนในตู้เก็บของจำนวน 45 นัด นอกจากนี้ยังพบเพื่อนนายบุญคงคาอยู่ในบ้านอีก 2 คน ประกอบด้วย นายณัฐพงศ์ หรืออ้วน แก้วกระจ่างสุข อายุ 28 ปี พร้อมยาเคตามีน ชนิดผง จำนวน 12 ถุงเล็ก น้ำหนักรวม 30 กรัม และเครื่องชั่งดิจิทัล 1 เครื่อง วางอยู่บนตู้เสื้อผ้าในห้องนอน และนายโยธิน หรือโบ๊ท นิลกนิษฐ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด จึงเชิญตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายไปสอบสวนที่ สน.บุคคโล
พ.ต.อ.ธวัชชัยกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการข่าวที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า พบนายโยธิน เจ้าของฉายา “หมูบิน บางแค” ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายสำคัญในพื้นที่ฝั่งธนบุรีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เมื่อชุดจับกุมประสานเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปตรวจค้นพบผู้ต้องหาอีก 2 คน พร้อมกระสุนปืนและยาเคตามีนในครอบครองด้วย จึงต้องดำเนินคดีพร้อมกันทั้งหมด เบื้องต้นมีผู้ต้องหา 2 ราย ถูกนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ท้องที่ที่เกิดเหตุ คือนายบุญคงคา เจ้าของบ้าน ถูกแจ้งข้อหามีเครื่องกระสุนปืนไว้ความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายณัฐพงศ์ถูกแจ้งข้อหาครอบครองยาเคตามีนเกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนด สำหรับนายโยธินนั้นจะถูกส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ตามหมายจับคดีลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สน.บุคคโล
ด้าน พ.ต.ท.ปิโยรสกล่าวว่า จากการสืบค้นข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรของนายโยธินมีหมายจับคดีลักรถจักรยานยนต์ติดตัวรวมทั้งสิ้น 5 คดี ในพื้นที่ สน.บุคคโล สน.ท่าข้าม สน.แสมดำ สน.หนองแขม และ สน.ภาษีเจริญ ที่ผ่านมาเจ้าตัวพร้อมพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้หลายคนตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ตามสถานที่เปลี่ยวย่านฝั่งธนบุรีไปขายหลายคัน จากการสอบถามนายโยธินยอมรับว่าจะลงมือลักรถจักรยานยนต์หลายยี่ห้อและรุ่น ทั้งรถแบบผู้หญิงและรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ตามใบสั่งของเอเยนต์ไม่รู้จักชื่อที่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ เมื่อได้รถมาแล้วจะขับไปส่งที่ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ได้ค่าเสี่ยงคันละ 8,000-20,000 บาท แล้วแต่สภาพรถ หลังจากนี้จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
