บุกห้องล็อกตัว’นายดาบ’สน.ลุมพินี ร่วมกับพวก ยัดยาเสพติดชาวแคนาดา ลั่นให้ออกราชการ

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำชายชาวแคนนาดา ผู้เสียหาย(เสื้อแดง)ถูกผู้ต้องหายัดยาเสพติด

เมื่อวันที่ 29 มกราคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 และ พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ร่วมกันแถลงจับกุม ด.ต.เชิดชาย ผู้ช่วยท้วม อายุ 46 ปี ตำรวจจราจร สน.ลุมพินี และนายชาคริต ทีหลวย อายุ 37 ปี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เมื่อเวลา 11.40 น. ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มชายเปิดห้องพักเลขที่ 1633 ชั้น 6 เดอะบลูมอพาร์ตเมนต์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร มีพฤติการณ์ เปิดห้องพักมั่วสุมยาเสพติด จึงไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอยู่ในห้องที่เกิดเหตุ พบยาไอซ์ น้ำหนัก 0.5 กรัม อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 7 นัด จึงแจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย แก่ ด.ต.เชิดชาย และแจ้งข้อกล่าวหา มีและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังแก่ นายชาคริตและด.ต.เชิดชาย นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

รอง ผบช.ทท. กล่าวต่อว่า ต่อมานายแอนดรู เอียน ไบเลย์ อายุ 25 ปี ชาวแคนาดา เดินทางมาที่สน.ทุ่งมหาเมฆ แจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือคนร้าย ที่ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังและมีพฤติการณ์ จะยัดยาเสพติดให้กับผู้แจ้ง แต่ผู้แจ้งหลบหนีไปได้ โดยคนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินใดๆ ไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ก่อเหตุแชตหลอกลวงนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาให้มาที่ห้องพักทำทีขอมีเพศสัมพันธ์ แต่พอต่างฝ่ายต่างเห็นหน้ากัน นักท่องเที่ยวชาวแคนาดา พยายามจะกลับออกไปจากห้อง แต่กลับถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ฉุดกระชากตัวไว้ แต่นักท่องเที่ยวสามารถหลบหนีออกมาแจ้งความร้องทุกข์ได้

รอง ผบช.ทท. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ด.ต.เชิดชาย ถูกทำทัณฑ์บนหลายครั้ง ทั้งคดียาเสพติดและชอบยัดข้อหา ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน แม้คดีนี้จะเกี่ยวข้องกับตำรวจก็จำเป็นต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยจะต้องให้ออกจากราชการเพราะเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ทั้งยังยืนยันว่าจะต้องแยกตำรวจดีออกจากตำรวจไม่ดี ที่สำคัญคดีนี้เกี่ยวกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image