วันที่ 8 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ ศูนย์ข่าวภาคใต้ มีการนำเสนอบทความลงวันที่ 5 ก.พ. มีเนื้อหาระบุมาจากการสัมภาษณ์แหล่งข่าว อดีตเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคง ซึ่งระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้ถูกเจ้าหน้าที่ชุดซักถาม สังกัดหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 ซ้อมทรมานจนปางตายเพื่อให้รับสารภาพ โดยเนื้อหายังระบุลักษณะการทารุนด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการซ้อม ตีด้วยพันท้ายปืน รวมถึงการใช้ถุงพลาสติกคุมหัว ทั้งนี้หลังมีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกไปได้กลายเป็นเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับหน่วยทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ล่าสุด พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนใต้(กกล.ทพ.จชต.) ได้เรียก พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 เป็นหน่วยที่ถูกกล่าวหาชี้แจงความจริง โดยได้รับการยืนยันว่า เป็นความตั้งใจโจมตีการปฏิบัติงานของฝ่ายหน้าที่ การซ้อมหรือการทำร้ายร่างกายให้รับสารภาพนั้นไม่มีความจำเป็น หรือมีปัจจัยใดๆ ให้ต้องกระทำการดังกล่าว ทั้งนี้ทางหน่วยยังได้มีการตรวจสอบจนสามารถทราบชื่อที่อยู่ของผู้อ้างเป็นอดีตผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงถูกซ้อมทรมานให้รับสารภาพและพยายามติดต่อมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง อีกทั้งได้นำเรียนข้อมูลความจริงแก่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และมีคำสั่งให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้ารวบรวมหลักฐานพยานต่างๆ เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เขียนและสำนักข่าวที่ สภ.เมืองปัตตานี ในวันศุกร์ที่ 9 ก.พ.ที่จะถึงนี้
พ.อ.คมกฤช กล่าว่า จริงแล้วฝ่ายเจ้าหน้าที่มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 13 ปี ให้ดีลุล่วงอยู่แล้ว สำหรับสื่อหรือการลงข่าวที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างปรับรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องตามแนวนโยบายของรัฐบาลแทบจะเกือบ 100% ตรงนี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นต้องป้องกัน เพราะการนำเสนอข่าวลักษณะอย่างนี้ยังเกิดขึ้นไม่หยุด สิ่งนี้จึงเป็นวิธีสุดท้ายในการพึ่งคนกลางให้เข้ามาช่วยบอกว่า จริงๆแล้วฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐนั้นปฏิบัติตามแนวนโยบายทุกอย่าง ไม่ได้ไปลุกล้ำสิทธิ์ต่างๆ ของประชาชนเลย
ข้อความที่เขียนนั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถทำไปได้ ตรงนี้การนำเสนอเนื้อหาไม่ได้ผิดเพี้ยนแค่นิดหน่อย แต่เป็นการเขียนที่มีความผิดเพี้ยนไปอย่างมาก และเหตุการณ์ลักษณะนี้อย่างนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นเป็นสิบเป็นร้อยครั้งแล้ว ครั้งนี้หากไม่มีการแก้ปัญหาที่มีการเขียนระบุถึงหน่วยและใครทำอะไรอย่างไร ถ้าไม่จริงไม่ชัดแล้วหน่วยในพื้นที่รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้สังกัดในหน่วยนั้นๆ จะส่งผลถึงขวัญกำลังใจและความน่าเชื่อถือของหน่วยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดเพราะปัญหาของ 3 จังหวัดหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นเรื่องของการสร้างความเข้าใจ หากยิ่งไปสร้างความเข้าใจผิดก็จะยิ่งทำให้การสร้างความเข้าใจได้ยากขึ้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องชี้ให้เห็นว่าเราก็มีความชอบธรรม มีสิทธิ์เหมือนคนอื่นเขา ซึ่งที่ผ่านๆ มานั้นเขาชอบพูดถึงสิทธิ์ ครั้งนี้เราก็จำเป็นต้องพูดถึงสิทธิ์ของเราบ้าง
(ชมคลิป)
