เร่งพิสูจน์มือยิง-แล่หนัง’เสือดำ’ ปทส.ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ตภูเรือ’เปรมชัย’

จากกรณี นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นำกำลังจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ ผจก. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) กับพวก 4 คน ขณะตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พร้อมซากเสือดำ ซากไก่ฟ้าหลังเทา ซากเก้งถูกชำแหละถลกหนัง อาวุธปืน3กระบอก และเครื่องกระสุนจำนวนมาก นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดี 9 ข้อหา โดยนายเปรมชัยและพวกได้ยื่นเงินสดรายละ 1.5 แสนบาท เป็นหลักทรัพย์ขอประกันตัวต่อศาล

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักนายเปรมชัย ในกรุงเทพฯ ยึดงาช้าง 2 คู่ ปืน อาวุธปืนรวม 43กระบอก เป็นปืนพกสั้น 2 กระบอก และปืนยาว 41 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก จึงยึดไว้ตรวจสอบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) และออกหมายเรียกนายนพดล พฤกษะวัน ที่ปรึกษาบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติ ที่ถูกระบุว่าเป็นคนประสานให้นายเปรมชัยกับพวก เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้มาพบพนักงานสอบสวนที่บก.ปทส. ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่บก.ปทส. พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีที่นายเปรมชัยและพวกเข้าไปในพื้นที่อุทยานเพื่อล่าสัตว์ ว่า ในส่วนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองทองผาภูมิ สืบสวนสอบสวน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปหลายปาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงของเรื่องราวทั้งหมด เบื้องต้นนายเปรมชัยและพวก เข้าไปตั้งแต่วันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ซึ่ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงานก่อน ในส่วนนี้การที่นายเปรมชัยและพวกเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวมาจากการที่นายนพดล ได้ประสานมายังน.ส.กาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ากรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ก่อนที่ทางน.ส.กาญจนา จะประสานไปยังนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก โดยนายวิเชียรได้ทำหนังสือไปยังกรมอุทยานแต่ยังไม่มีการลงนาม อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงในส่วนนี้ต้องสอบปากคำอย่างละเอียด รวมทั้งจะต้องเชิญตัวนายนพดลมาสอบปากคำในฐานะพยานด้วย

ผบก.ปทส. กล่าวอีกว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกเชิญตัวนายนพดลมาสอบปากคำในฐานะพยานแล้ว เนื่องจากถูกพาดพิงว่าเป็นคนประสานไปยัง น.ส.กาญจนา เพื่อให้นายเปรมชัยและพวกเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว โดยขั้นตอนได้ส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำเนาในทะเบียนราษฎร์ รวมทั้งประสานไปยังกรมอุทยานอีกทางหนึ่ง เพราะเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อนายนพดลได้ ส่วนตัวเชื่อว่านายนพดลจะเดินทางเข้าให้ปากคำตามหมายเรียกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ได้เดินทางไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริเวณทางเข้า ในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ทั้งนี้ในสำนวนคดีทางพนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิเป็นผู้รับผิดชอบคดี ขอเวลาทางเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน

Advertisement

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวด้วยว่า สำหรับที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดถึงเจ้าหน้าที่ถึงไม่ดำเนินการหาคนยิง ในส่วนนี้ขอยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจสั่งชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ตั้งแต่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากจุดดังกล่าวระยะทางต้องเดินเท้าเข้าไปกว่า 8 กิโลเมตร เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่าง 3-5 กุมภาพันธ์ แต่มีการส่งมอบเรื่องกันในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และทางบก.ปทส.เข้าร่วมสอบวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งต้องใช้เวลา ว่า นำปืนเข้าไปได้อย่างไร ซากสัตว์เกิดจากอะไร ระยะเวลาในการควบคุมตัวมากน้อย เพราะตามหลัก ป.วิอาญา ควบคุมได้เพียง 48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามเมื่อขั้นตอนของการตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วมีข้อสงสัย ก็ต้องเรียกตัวนายเปรมชัยและพวกมาสอบสวนเพิ่มเติม

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวอีกว่า หากถามว่านายเปรมชัยและพวกเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวกี่ครั้ง ในส่วนนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของกรมอุทยานฯ เนื่องจากเป็นผู้ให้อนุญาต ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานขอหลักฐานกับทางกรมอุทยานไปแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ที่ชัดเจนขณะนี้ จากการเรียกเจ้าหน้าที่อุทยานมาสอบปากคำ ทุกคนให้การเป็นประโยชน์ สิ่งที่ยืนยันได้คือนายเปรมชัยและพวกอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพรรณสัตว์ป่าอย่างแน่นอน แต่ต้องสอบว่าได้รับการอนุญาตเข้าไปได้อย่างไร

พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบบ้านพักซึ่งเป็นรีสอร์ตของนายเปรมชัย สั่งการให้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบรีสอร์ตที่ภูเรือ จ.เลย อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นบ้านพักหรือไม่อย่างไร อีกทั้งได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลว่านายเปรมชัยมีที่พักบริเวณใดบ้าง ขณะนี้ทราบเพียงว่านอกจากที่ภูเรือแล้วยังไม่พบข้อมูลว่ามีบ้านพักที่ใดอีก ในส่วนของซากเสือดำว่ามีการแล่อย่างชำนาญในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่มีขั้นตอนในการพิสูจน์ รวมทั้งแนวทางการสืบสวนที่จะต้องตรวจสอบปูมหลังของแต่ละบุคคล ในส่วนนี้ยังไม่ขอเปิดเผย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image