‘บิ๊กหมู’ขออดใจรอ’ผบ.ตร.’เคลียร์ทุกคำถามคาใจสังคม ปมลอตเตอรี่อลเวง 30 ล้าน 28 ก.พ.

พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.

จากกรณีคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาท ที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต่างฝ่ายต่างแสดงความเป็นเจ้าของในสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลดังกล่าว กระทั่ง ผบช.ภ.7 แถลงว่า จากพยานหลักฐานแล้วลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลก็น่าจะเป็นของนายปรีชา และเตรียมแจ้งข้อหากับ ร.ต.ท.จรูญ ในข้อหายักยอกทรัพย์ที่ตกหาย และรับของโจร กระทั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้โอนคดีมาให้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เข้าไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ล่าสุด ร.ต.ท.จรูญ เข้ามาร้องขอความเป็นธรรมที่ บก.ป.

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ช่วงนี้เป็นช่วงของการดำเนินการเก็บรายละเอียดในส่วนที่เหลือ กรณีดังกล่าวต้องใช้เวลาค่อนข้างนานและค่อนข้างมีตัวละครเยอะ จะต้องดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบ ให้การอย่างไร เพราะเหตุใด อย่างที่เคยบอกเอาไว้แล้วต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่ว่าใครจะเข้าใจอะไรที่คลาดเคลื่อน เห็นหรือได้ยิน เราดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการซักถามจะต้องทำโดยละเอียดรอบคอบ ให้การเพราะมีคนบอกมาอีกที เล่าเรื่องเหมือนเห็นจากความจริงคงจะไม่ไหว ทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่เป็นความจริง จะต้องทำการพิสูจน์ทราบทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามถึงทาง ร.ต.อ. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่ทำคดีให้การว่าอย่างไร พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า จากการซักถามที่จ.กาญจนบุรี ได้ข้อมูลมาพอสมควร รายละเอียดต้องใช้เวลาซักถามต่อไปอีก ต้องใช้เวลาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ อย่างพยานทั่วไปอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนหลงผิดด้วยตัวเขาเองคิดว่าทำถูกทั้งหมด กรณีที่เกิดขึ้นมาต้องให้โอกาสทุกคน ที่กล่าวมาไม่ได้ให้เห็นใจตำรวจ แต่การทำงานทุกสาขาอาชีพนอกจากองค์ความรู้ต้องมีทักษะประสบการณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คนมาแจ้งความมีคน 2 คน ถามคนทั่วไปอย่างตำรวจประสบการณ์น้อยทำคดีน้อย ยกตัวอย่างคล้ายกับแพทย์ตรวจโรคยังมีประสบการณ์น้อย เมื่อมีคน คนมาแจ้งความจะเชื่อใคร อีกคนจำอะไรไม่ได้เลย อีกคนพูดรายละเอียดได้ดีค่อนข้างเยอะมาก เบื้องต้นอาจทำให้เกิดความน่าสงสัยฝั่งหนึ่งและเชื่ออีกฝั่งหนึ่ง แต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น จะทำงานด้วยความเชื่อไม่ได้ ทุกอย่างต้องใช้พยานหลักฐานเล่าตัวมันเอง เจอพยานหลักฐานอะไรถือเป็นสิ่งที่เป็นคำตอบมากที่สุด

เมื่อถามถึงกระแสข่าว ร.ต.ท.จรูญ อาจเป็นคนเก็บลอตเตอรี่ได้เองนั้น พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า กรณีดังกล่าวยังไม่สามารถบอกไปถึงจุดนั้น แต่ขอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นผู้ให้คำตอบเองในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวถือเป็นปรากฏการณ์ที่สังคมต้องตั้งข้อสังเกตว่า สังคมมีคนแบบนี้ได้อย่างไร จากจริงเป็นเท็จ จากเท็จจริงเป็นจริง แล้วตำรวจที่ประสบการณ์น้อยฟังแล้วก็เชื่อ พอเชื่อเสร็จทนายออกมาเคลื่อนไหว ตำรวจกลัวโดนฟ้องแล้วก็ปล่อยให้ไปสู่กระบวนการชั้นศาลไป กรณีดังกล่าวทั้งหมดเริ่มต้นไม่ได้มีการทุจริตแต่อย่างใด แต่เกิดจากความเชื่อ ที่ถามว่าจะต้องมีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้โกหกนั้น มีอย่างแน่นอน เรื่องนี้มีเท่านั้น

Advertisement

“ขอให้มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากไม่มั่นใจตำรวจในพื้นที่ขอให้มาร้องที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เนื่องจากมีหน่วยงานที่มีการคานอำนาจกันอยู่โดยที่ไม่มีผู้มีอิทธิพลมาเกี่ยวข้อง ตำรวจพื้นที่อาจจะรู้จักคนในพื้นที่ เหมือนดังตัวอย่างกรณีนายปรีชาไม่มีใครในตลาดไม่รู้จักบ้าง เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นจะสามารถนำคดีเกี่ยวกับลอตเตอรี่ทั้งหมดเพื่อหาบทสรุปเพื่อตอบสังคมให้ได้ว่ากรณีดังกล่าวเกิดจากอะไร อย่างกรณีที่มีคดีในลักษณะเดียวกันที่เกิดขึ้นที่ จ.บุรีรัมย์ เกิดจากผู้ขายลอตเตอรี่ เมื่อหวยผ่านแผงอยากมีส่วนได้ส่วนเสียก็โทรไปหาลูกค้าประจำ จนทำให้เกิดประเด็นลักษณะดังกล่าวขึ้นมา ทั้งหมดเกิดจากแผนประทุษกรรมคล้ายลักษณะเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จ.กาญจนบุรี” ผบช.ก.กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่พยานหลักฐานหายไปจากโต๊ะพนักงานสอบสวนนั้น พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า จะต้องดำเนินการตรวจสอบจนสุดทางว่าคืออะไร ส่วนจะที่ถามว่าน่าจะมีคนในหรือไม่ ยังไม่ทราบแต่ถ้ามีหลักฐานอะไรที่เกี่ยวข้องไปถึงใครก็ต้องเอาหมด แต่ถ้าไม่มีก็เป็นเรื่องสุดวิสัย และคดีดังกล่าวเกิดขึ้นมานานกว่า 2 เดือน ก่อนมาถึง บช.ก. เมื่อถามว่าจะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี หรือไม่ ผบช.ก. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวต้องถามทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าจะมีการดำเนินการดังกล่าวอย่างไร

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นต้องขอบคุณทุกคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทั้งนักวิชาการ ทนายความ ทั้งหมดเป็นผู้ดูข้างสนาม จะใช้สิ่งที่ตนเองมีอยู่ในหัวบวกเข้ากับเหตุการณ์ก็เป็นเรื่องตื่นเต้นสนุกสนานที่ถือได้ว่าเป็นกระบวนการตรวจสอบของสังคมอีกรูปแบบหนึ่ง แต่บางทีอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

Advertisement

เมื่อถามว่า กรณีการนำเอาข้อมูลในสำนวนคดีออกมาเปิดเผยจะต้องมีการดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า กรณีดังกล่าวยังสงสัยอยู่ เนื่องจาก บช.ก.ทำงานกันในทางลับมาโดยตลอด อาจจะต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ เพราะไม่ทราบว่าใครเป็นฝ่ายใด และอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชุดทำงานไปด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image