อัยการฟ้องอดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน คดีงาบเงินทอนวัด ปฏิเสธสู้คดี ส่วนอดีตผอ.พศ.’นพรัตน์’หายเข้ากลีบเมฆ

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23กุมภาพันธ์ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยผลการสั่งคดีฟอกเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา(พศ.) หรือเงินทอนวัด ว่า หลังจากวันที่1กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ59ปี อดีตผอ.พศ. ผู้ต้องหาที่ 1 ตัวยังหลบหนี นายฉัตรชัย ชูเชื้อ อายุ53ปี ผอ.พศ. ปทุมธานี อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ที่ได้ประกันตัวในชั้นฝากขัง และนายสมเกียรติ ขันทอง หรือ อดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ อายุ54ปี อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าอาวาสวัดลาดแค ผู้ต้องหาที่ 3 ตัวถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นฝากขัง ฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

นายประยุทธ กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อวันที่22กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ครบกำหนดฝากขังวันสุดท้าย คณะทำงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีความเห็นสั่งฟ้อง นายนพรัตน์ อดีต ผอ.พศ.ผู้ต้องหาที่ 1 และ อดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ ผู้ต้องหาที่ 3 ฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน แต่เนื่องจากในส่วนของ นายนพรัตน์ อดีตผอ.พศ.ผู้ต้องหาที่ 1หลบหนีระหว่างชั้นสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับไว้แล้ว ดังนั้นอัยการจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนติดตามตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องภายในอายุความ 20 ปี นับจากวันเกิดเหตุ (ครบ21มกราคม 2579)ส่วนอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ ที่อัยการสั่งฟ้องและตัวถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ อัยการได้ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติไม่ชอบกลาง ไปเมื่อวานนี้ (22 กุมภาพันธ์) คดีต้องรอศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิจารณาต่อไป

นายประยุทธ กล่าวอีกว่า สำหรับนายฉัตรชัย ผอ.พศ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาที่ 2 ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ.นั้น คณะทำงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอให้ฟ้อง โดยขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างอัยการส่งความเห็นกลับไปให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อทำความเห็นตามขั้นตอนกฎหมายว่าจะเห็นตรงหรือเห็นแย้งกับคำสั่งคดีของอัยการ หาก ผบ.ตร. เห็นแย้งจะต้องส่งสำนวนและความเห็นนั้นกลับมาให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง อดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ แล้ว ศาลได้ประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีดำหมายเลข อท.38/2561 โดยศาลสอบคำให้การจำเลยในเบื้องต้นแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลได้นัดพิจารณาและสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 19 มีนาคม เวลา 09.00 น. อย่างไรก็ดีวันนี้(23 กุมภาพันธ์ ) ญาติของอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 700,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นพิจารณาคดี ขณะที่ศาลพิจารณาแล้วกำหนดวงเงินที่จำเลยจะต้องยื่นหลักทรัพย์ 1.5 ล้านบาท แต่จนเมื่อสิ้นสุดเวลาทำการศาลในเวลา 16.30 น. ญาติของจำเลยยังไม่สามารถหาหลักทรัพย์จำนวน1.5ล้านบาทยื่นประกอบคำร้องขอปล่อยชั่วคราวได้ทัน ดังนั้นอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ จำเลย จึงต้องถูกคุมขังในเรือนจำต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image