ตร.บางชันรวบ3โจ๋ ยิงพลาดเด็ก 15 ดับ ซื้อปืนทางเน็ต 6,500 บ. ผบช.น.ยันหลักฐานแน่น

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่สน.บางชัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. แถลงจับกุมนายฤทธิพงษ์ หรือบอย เชื้ออาษา อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี วันที่ 19 มกราคม นายต้น (นามสมมติ) อายุ 18 ปี จับได้บริเวณท้ายซอยเสรีไทย 73 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. และนายวรภาส หรือกี้ ลิมทวีสมเกียรติ อายุ 21 ปี จับกุมได้เมื่อเมื่อวันที่ 20 มกราคม บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งถ.เลียบคลองหกตะวันออก ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ”ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” พร้อมของกลาง หมวกกันน็อคแบบเต็มใบยี่ห้ออินเด็กซ์ สีขาว 1 ใบ เสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวคอปกสีกรมท่า 1 ตัว เสื้อเชิ้ตแขนยาวคอปกสีขาว 1 ตัว รองเท้าผ้าใบ ยี่ห้อคอนเวิสต์ สีเทา 1 คู่ หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ยี่ห้ออินเด็ก สีดำ 1 ใบ เสื้อเชิ้ตแขนยาวคอปกสีกรมท่า 1 ตัว กางเกงยีนส์ายาวสีดำ 1 ตัว รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็กซ์ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน หมวกกันน็อคแบบเต็มใบยี่ห้อสเปท คราว สีดำ 1 ใบ เสื้อยืดคอกลม แขนสั้นสกรีนด้านหลัง “เทคโนโลยีบางกะปิ สีขาว 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน 1 ตัว รองเท้าผ้าใบยี่ห้อดีเซลสีชมพู 1 คู่ รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นโซนิคสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่นายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักศึกษาเอกชนย่านบางกะปิ แผนกช่างไฟ ได้ขี่รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน ทะเบียน บลฉ-573 กทม. มีนายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นั่งซ้อนท้ายมา ทั้งสองขี่มาจากถนนพัฒนาชนบท 3 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง เพื่อไปเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้านโอปอ ซึ่งเป็นร้านขายของชำ ภายในซอยกาญจนาภิเษก 25 ได้มีกลุ่มวัยรุ่น สวมหมวกนิรภัยจำ3 คน ขี่รถจยย. 2 คัน ไล่ตามหลังมา ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจะใช้อาวุธปืน ยิงใส่นายเอและนายบี ทั้งคู่จึงขี่รถจยย.หลบหนีไปที่บ้านภายในซอยจิตรา5 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้กระสุนพลาดไปถูกนายบัญญวัต สืบสำราญ อายุ 15 ปี บริเวณกลางหน้าผาก ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามนายชาญชัย ศรีบุรี อายุ 35 ปี คนขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชอ สีบรอนซ์ ทะเบียน 1ฒฐ-9257 กรุงเทพมหานคร พี่ชายของผู้เสียชีวิตที่นั่งมาด้วยกันให้การว่า ขณะที่ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว เดินทางมาจากย่านอ่อนนุชมุ่งหน้ากลับบ้านที่หมู่บ้านพูนสินธานี1 ย่านเคหะร่มเกล้า โดยมีผู้เสียชีวิตนั่งด้านหน้าข้างซ้ายผู้ขับขี่ เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงดังคล้ายประทัดและรู้สึกเหมือนที่หน้ากระจกคล้ายถูกก้อนหิน เมื่อหันมาพบว่านายบัญญวัต ถูกยิง จึงเรียกรถพยาบาลและแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานแวดล้อม จนทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุคือผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จึงรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งศาลออกหมายจับ ตำรวจจึงติดตามจนสจับกุมนายฤทธิพงษ์ หรือบอย นายวรภาส หรือกี้ และนายต้น (นามสมมติ) ตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนลูกโม่ที่นายวรภาส หรือกี้ใช้ก่อเหตุ ได้มาจากการหาซื้อทางอินเตอร์เน็ตในราคาประมาณ 6,500 บาท และจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายวรภาสหรือกี้ มีหมายจับในคดีฆ่าผู้อื่นในพื้นที่สน.ประเวศ ก่อเหตุเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่มาอายัดตัวต่อไป
ด้านนายวรภาสหรือกี้ มือปืน รับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตนและพวกได้จอดรถจยย.แวะซื้อของที่ร้านค้าก่อนที่ตนจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มซึ่งไม่คุ้นหน้าตาและคิดว่าน่าจะเป็นคู่อริต่างสถาบัน ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจะชักอาวุธปืนออกมาเพื่อข่มขู่ ตนจึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาไล่ยิง โดยที่ไม่รู้ว่าอยู่สถาบันเดียวกัน เพราะก่อนหน้านี้ได้มีรุ่นพี่พวกตนเสียชีวิตในลักษณะนี้มาแล้ว ทำให้ต้องป้องกันตัว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายฤทธิพงษ์ หรือบอย และนายวรภาส หรือกี้ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หน้าร้านโอปอขายของชำ กลางซอยกาญจนาภิเษก 25 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. โดยนายฤทธิพงษ์ เป็นผู้ขี่จยย.ฮอนด้า รุ่นโซนิค สีแดง ส่วนนายวรภาส มือยิงเป็นผู้ซ้อนท้าย ซึ่งเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุนายวรภาสได้เล็งปืนไปที่กลุ่มนายเอ (นามสมมติ) เพราะเข้าใจว่าเป็นคู่อริ ขณะที่นายชาญชัยขับรถกระบะมาจอดหน้าร้านดังกล่าว มีนายบัญญวัตนั่งข้างมาด้วย โดยจอดถัดออกไปประมาณ 50 เมตร ขณะที่นายวรภาสลั่นไกนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่รถจยย.อยู่บนลูกระนาด ทำให้เสียการทรงตัว ลูกกระสุนจึงพลาดไปถูกนายบัญญวัต จนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน สอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำส่งศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป
พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า สำหรับการทำแผนที่ญาติของผู้ต้องหาเดินทางมาดูด้วยนั้น หากสงสัยหรือติดใจส่วนใดสามารถเข้าสอบถามกับตนได้โดยตรง พร้อมจะชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง หายคลางแคลงใจ โดยยืนยันว่าตำรวจมีหลักฐานแน่นหนา ในการจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เนื่องจากกว่าจะนำตัวมาแถลงนั้น ตนได้กำชับให้รวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำให้เป็นที่แน่ชัดว่าไม่ได้จับกุมผิดคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image