เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ศูนย์ช่วยหลือเด็กเพื่อแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ หรือ Children Advocacy Center Thailand (ACT) จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม และคณะได้เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์ ACT ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือ พิทักษ์คุ้มครองและเยียวยาเด็กและสตรี ที่ตกเป็นเหยื่อจากปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาการละเมิดทางเพศ รวมถึงกลุ่มเสี่ยง โดยมีนายเบน สวัสดิวัตน กงสุลกิตติมาศักดิ์ ประเทศอังกฤษ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อความเข้าใจเด็ก และ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีรสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 และคณะให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า เดินทางมายังพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อติดตามปัญหาการค้ามนุษย์และการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยพบว่าพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 มีปัญหาการค้ามนุษย์โดยเฉพาะในรูปแบบ การล่อลวงผ่านอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ พบว่าในปี 2551 มีคดีค้ามนุษย์ในพื้นที่ บช.ภ. 5 จำนวน 30 คดี มีสถิติเพิ่มขึ้น ในปีต่อๆ มา ในปี 2558 มีถึง 61 คดี ในปี 2559 เกิดขึ้นแล้ว 7 คดี
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการเยี่ยมชมศูนย์แอคพบว่า เป็นศูนย์ที่ทำหน้าที่ดูแลพิทักษ์เยาวชนและสตรีที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ที่มีประสิทธิภาพ ศูนย์นี้เป็นความร่วมมือของตำรวจ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์กรเอกชนทั้งไทยและต่างชาติ โดยศูนย์นี้จะรับเด็กที่มีปัญหาเคยตกเป็นเหยื่อรวมถึงกลุ่มเสี่ยงเข้าบำบัดพูดคุยสร้างความไว้วางใจกระทั่งเด็กยอมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางคดี เสมือนการสอบสวน แต่ลดความกดดันของเหยื่อโดยเฉพาะที่เป็นเด็กลงได้มาก ศูนย์แอคในพื้นที่ บช.ภ.5 เป็นโมเดลที่ดีเห็นควรนำไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ เป็นประโยชน์อย่างมากในการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์ คดีละเมิดทางเพศโดยเฉพาะที่เกิดกับเด็กผู้หญิงทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจุบันศูนย์นี้เป็นความร่วมมือขององค์กรเอกชน ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวอย่างเป็นทางการ จากนี้จะเสนอให้รัฐบาลเข้ามามีบทบาทให้การสนับสนุน เพราะมองว่าเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย ศูนย์นี้ดำเนินการได้หนึ่งปีแล้ว ได้นำเหยื่อในคดีค้ามนุษย์เข้าบำบัดพูดคุยกว่า 30 คดีแล้วซึ่งเป็นผลดี
ด้านนายเบนกล่าวว่า ตนเข้ามาทำงานในองค์กรนี้ในฐานะประธานกรรมการมูนิธิ ได้เล็งเห็นว่าศูนย์นี้มีประโยชน์นำเหยื่อในคดีค้ามนุษย์ มาฟื้นฟูบำบัด ทำกิจกรรมจนเกิดความไว้วางใจ ยอมให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ โดยในศูนย์มีอาสาสมัครทำหน้าที่ดูแลเด็ก มีทั้งชาวต่างชาติและคนไทยมาจากองค์กรที่มีความถนัดต่างๆ ด้านเด็ก จิตวิทยาและกฎหมายโดยในศูนย์มีห้องพูดคุยซักถาม ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพูดคุยกับเด็กโดยมีทนายร่วมรับฟัง ปรึกษา แต่บรรยากาศการพูดคุยเป็นกันเองลดความกดดัน เด็กก็จะยอมให้ข้อมูล มีการบันทึกวิดีโอ แล้วส่งให้ศาลใช้ในการพิจารณาคดี มองว่าสูตรนี้ดีมากในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์