เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ หรือเสก หรือเสกโลโซ ศุขพิมาย เป็นจำเลย ในความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯลหุโทษ ให้จำคุก5วัน และปรับ2,000บาท ในคดียิงปืนขึ้นฟ้าที่วัดเขาขุนพรหม หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2560
ทั้งนี้ คำพิพากษาโดยละเอียด ระบุว่า โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2560 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงวัน จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ จำเลยพาอาวุธปืนพกออโตเมติก(HK) ขนาด 9 มม. Luger ซึ่งมีเครื่องหมายทะเบียน กท 4104082 ของเจ้าพนักงานประทับไว้ 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนออโตเมติกขนาด 9 มม. Luger จำนวน 10 นัด อันเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย ใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ ซึ่งเป็นของจำเลยที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้จากนายทะเบียนอาวุธปืนแล้ว ติดตัวไปภายในบริเวณวัดเขาขุนพรหม หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช อันเป็นเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและโดยไม่มีเหตุสมควร
ทั้งไม่เป็นกรณีที่ต้องมีอาวุธปืนติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และโดยไม่ได้รับการยกเว้นใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิง ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ใช้ดินระเบิดซึ่งจำเลยพาไปจำนวน 10 นัด โดยใช่เหตุ บริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในวัดเขาขุนพรหมดังกล่าว เหตุเกิดที่ ต.บ้านเกาะ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตรวจยึดเครื่องกระสุนออโตเมติก ขนาด 9 มม. Lugerจำนวน 1 นัด และปลอกกระสุนปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. Luger จำนวน 9 ปลอก ซึ่งจำเลยพาติดตัวไปและใช้ยิงปืนโดยใช่เหตุ ได้จากที่เกิดเหตุเป็นของกลาง และเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เจ้าพนักงานตรวจยึดอาวุธปืนพกออโตเมติก(HK) ขนาด 9 มม.Luger ซึ่งมีเครื่องหมายทะเบียน กท 4104082 ของเจ้าพนักงานประทับไว้1กระบอกเป็นของกลาง อาวุธปืนพกออโตเมติก (HK) ขนาด 9 มม. Luger จำนวน 1 กระบอกของกลางโจทก์ได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนจัดการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85 แล้ว
ก่อนคดีนี้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญา ลงโทษจำคุก1ปี 3 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอนันตรายสาหัสและอันตรายแก่กาย ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.3705/2559 ภายในกำหนดเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้ในคดีดังกล่าว จำเลยมากระทำความผิดในคดีนี้อีก อันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,58,91,371,376 พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ ,72 ทวิ ริบของกลางทั้งหมดที่เจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้ และให้นำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.3705/2559 ของศาลอาญา มาบอกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้
พิเคราะห์พยานหลักฐานในสำนวน รายงานการสืบสวนโดยละเอียด รายงานการสืบเสาะพินิจจำเลยและคำให้การประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว แม้จำเลยเป็นบุคคลสาธารณะ มีชื่อเสียง สมควรเป็นแบบอย่างที่ดียิ่งและต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าบุคคลทั่วไป เนื่องจากสามารถเป็นที่จดจำได้ง่ายอันอาจเป็นแบบอย่างก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำความผิดหากถูกเผยแพร่ อาจเป็นบรรทัดฐานให้บุคคลอื่นอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์หลงผิดก่อเหตุในทำนองเดียวกัน
สำหรับคุณงามความดีในอดีต การช่วยเหลือสังคม หรือหลักฐานการสร้างกุศล หลังเกิดเหตุดังเอกสารประกอบคำรับสารภาพของจำเลย แม้ควรส่งเสริม แต่ไม่สามารถลบล้างความผิดได้ เนื่องจากเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตาม กฎหมายพึงใช้บังคับอย่างเสมอภาพเท่าเทียมกัน มาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าผู้กระทำความผิดมีสถานะทางสังคมเพียงใด คดีนี้จึงใช้ดุพินิจโดยไม่อิงสถานะทางสังคมของจำเลยเป็นคุณให้เบาลงหรือเป็นโทษให้หนักขึ้น แต่จะพิจารณาตามพฤติการณ์ดังฟ้องโจทก์ประกอบพยานหลักฐานในสำนวนเป็นสำคัญ
ฐานพาอาวุธปืนที่มีทะเบียนของตนเองไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร ปรับ 4,000 บาท สำหรับความผิดฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ แม้เป็นเพียงลหุโทษ ไม่มีผู้ใดได้รับความเสียหาย จำเลยมีภาระต้องรับผิดชอบต่อครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิด อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นของจำเลยเองโดยให้การรับสารภาพมาตลอด รวมทั้งเหตุผลความจำเป็นประการอื่นก็ตาม แต่จำเลยกระทำในศาสนสถาน ยิงปืนมากถึงสิบนัด ถือว่าไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อความเดือดร้อนรำคาญ กระสุนปืนแต่ละนัดอาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นความผิดสำเร็จทันทีโดยไม่จำต้องมีผู้เสียหาย
กรณีสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ดังนั้นเพื่อให้จำเลยหลาบจำ มิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น ป้องปราม และจัดระเบียบสังคมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เห็นสมควรลงโทษจำคุก10วัน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานพาอาวุธปืนฯ ปรับ 2,000 บาท ฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ จำคุก 5 วัน คงจำคุก 5 วัน และปรับ 2,000บาท โดยไม่รอการลงโทษ
ส่วนที่โจทก์ขอให้นำโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ อ.3705/2559 ของศาลอาญา มาบวกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ ศาลจะบวกโทษได้ก็ต่อเมื่อศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดอันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ คดีนี้ศาลลงโทษจำคุกจำเลยทันทีเฉพาะความผิดฐานยิงปืนโดยใช่เหตุ อันเป็นความผิดลหุโทษ ส่วนฐานพาอาวุธปืนมีทะเบียนของตนเองตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ศาลลงโทษจำเลยเพียงปรับเท่านั้น มิได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุกด้วย จึงไม่อาจบวกโทษที่รอการลงโทษคดีดังกล่าวเข้ากับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ สำหรับของกลางที่เจ้าพนักงานยังคงเก็บรักษาไว้ เป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด จึงให้ริบ
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371,376 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง 72 ทวิ วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา78 ฐานยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ จำคุก5วัน ฐานพาอาวุธปืนที่มีทะเบียนของตนเองไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ปรับ 2,000บาท คงจำคุก 5 วัน และปรับ 2,000บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 ริบของกลาง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
