จากกรณีมีคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียล เหตุการณ์นายจรูญ มีพันธ์ อายุ 80 ปี หรือคุณตาซาเล้ง ถูกวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในซอยชานเมืองแยก 2 ประชาสงเคราะห์ ย่านดินแดง ที่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย เฉี่ยวชนตาจนล้มคว่ำ และวัยรุ่นคนดังกล่าวกลับแสดงท่าทางไม่พอใจถึงขั้นทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 มีนาคม ที่โรงพยาบาลราชวิถี นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม พร้อม นายวรวุฒิ อรุณศิริวัฒนา นักประชาสัมพันธ์กรมคุ้มครองสิทธิฯ เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจพร้อมให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับนายจรูญ ที่นอนพักรักษาตัวอยู่
โดยนายเกิดโชค กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ ลงพื้นที่เชิงรุกให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและจะรับคำขอและแจ้งสิทธิตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 กฎหมายดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือเยียวยาทางการเงินแก่ผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากการกระทำความผิดทางอาญาของผู้อื่น โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดนั้น โดยสิทธิตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนฯ กรณีทั่วไป ประกอบด้วย 1.ค่าใช่จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท 2.ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท 3.ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ ให้จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่จังหวัดที่ประกอบการงานเป็นระยะเวลาไม่เกิน1ปี นับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ
นายเกิดโชค กล่าวต่อว่า 4.ค่าตอบแทนความเสียหายอื่นให้จ่ายเป็นเงินตามจำนวนที่คณะกรรมการเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 50,000 บาท และ5.ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าห้องและค่าอาหารวันละไม่เกิน 1,000 บาท ในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้แจ้งสิทธิแก่ผู้เสียหายเบื้องต้นแล้ว พร้อมให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายแก่ผู้เสียหาย รวมถึงแนะนำแนวทางการขอรับการช่วยเหลือ จากหน่วยงานภาครัฐ และอำนวยความสะดวกในการขอรับคำขอ หลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาให้ผู้เสียหายได้ทราบถึงสิทธิในการให้ความช่วยเหลืออีกด้วย”นายเกิดโชคกล่าว
ด้าน น.ส.วนิดา มณีพันธ์ ลูกสาวนายจรูญ กล่าวว่า นายจรูญฟื้นตัวแล้ว แต่ยังมีอาการหลงลืม และมีแผลเย็บบริเวณคิ้วซ้าย ครอบครัวผู้ก่อเหตุมาเยี่ยมและขอโทษครอบครัวตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พร้อมยอมรับผิดชอบทุกอย่าง และไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด แต่หลังจากนี้จะย้ายครอบครัวไปอยู่ที่จ.ลพบุรี เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและไม่ต้องการให้นายจรูญออกไปขับซาเล้งอีก
