โจ๋ชกลุงซาเล้งสำนึกผิด รุดขอขมาครอบครัว ยันไม่ได้เล่นมือถือขณะขี่จยย.

วันที่ 15 มีนาคม 2561 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 แถลง พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง จับกุมนายนราธร โสดติยัง อายุ 21 ปี ชาว กทม. อาชีพรับจ้างทั่วไป ภายหลังขับขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนชายชราวัย 82 ปี ที่ขับรถซาเล้ง แล้วไปทำร้ายร่างกายชายชราดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บนำส่งรักษาที่ รพ.ราชวิถี เหตุเกิดบริเวณซอยชานเมือง 2 แขวงและเขตดินแดง ท้องที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา

พ.ต.อ.กัมพลเปิดเผยว่า คดีนี้หลังจากเพจเฟซบุ๊กแหม่มโพธิ์ดำโพสต์คลิปวิดีโอขณะที่นายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี อาชีพเก็บของเก่า กำลังถีบรถสามล้อซาเล้งอยู่ภายในซอยชานเมือง 2 แขวงและเขตดินแดง เมื่อมาถึงบริเวณกลางซอย นายนราธรขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียนสวนทางมาและเฉี่ยวชนรถซาเล้งของนายจรูญ ทำให้รถจักรยานยนต์ของนายนราธรล้มลง โดยนายจรูญหยุดรถดูแล้วเห็นว่าไม่น่ามีอะไร เพราะรถซาเล้งไม่ได้รับความเสียหาย จึงถีบรถต่อไปช้าๆ แต่นายนราธรวิ่งตามมาและใช้เท้าเตะที่ลำตัวและชกที่ใบหน้านายจรูญจนตกจากรถซาเล้งแล้วล้มลงไปนอนที่พื้นถนน แล้วจะเข้าไปทำร้ายร่างกายซ้ำอีก แต่พลเมืองดีเข้ามาห้ามนายนราธรออกไปจากที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บมีแผลแตกบริเวณหางคิ้วข้างขวา พักรักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี

พ.ต.อ.กัมพลกล่าวต่อว่า ต่อมา เวลา 00.30 น. วันที่ 15 มีนาคม นายนราธรเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง สาเหตุที่ทำร้ายเนื่องจากโกรธ เพราะตัวเองขี่รถมาแล้วเฉี่ยวชนกันจนล้มลง พอเรียกนายจรูญก็ไม่หยุด เลยเข้าไปทำร้ายร่างกาย หลังเกิดเหตุก็สำนึกผิด ขอขมาครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมกับภรรยาตัวเอง และยอมชดใช้ค่าเสียหายและค่าดูแลนายจรูญทุกอย่าง ยืนยันว่าขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ได้เล่นโทรศัพท์มือถือ แค่ถือไว้ในมือ จากการตรวจสอบประวัตินายนราธร พบว่าเมื่อปี 2553 มีคดีทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย พื้นที่ สน.ดินแดง ปี 2558 มีคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเช็กผลของคดีอยู่ และล่าสุดคดีนี้ เบื้องต้นดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

Advertisement

พ.ต.อ.กัมพลกล่าวอีกว่า จากการตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติด แต่ผู้ต้องหายอมรับว่าดื่มเบียร์มาก่อน อย่างไรก็ตาม ระหว่างก่อเหตุไม่ได้มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด สำหรับการดำเนินคดีตอนนี้เน้นไปที่ข้อหาหลักคือ การทำร้ายร่างกาย เป็นความผิดอุกอาจและเป็นอาญาแผ่นดิน ส่วนข้อหารถชนเป็นความผิดลหุโทษ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการทุกคดี ทั้งนี้ ตนไปเยี่ยมอาการของนายจรูญที่โรงพยาบาล เบื้องต้นพบว่าหางคิ้วขวาแตก มีแผลเย็บประมาณ 10 เข็ม อยู่ระหว่างการแอดมิตเพื่อดูผลข้างเคียง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image